
ทันทีที่ End Credits ของ Scream ภาคนี้โผล่ขึ้นมา ผมก็ค่อยๆ ถามตัวเองว่า “เราชอบภาคนี้ไหมเนี่ย?”
ทันทีที่ End Credits ของ Scream ภาคนี้โผล่ขึ้นมา ผมก็ค่อยๆ ถามตัวเองว่า “เราชอบภาคนี้ไหมเนี่ย?”
เป็นหนังทีวีครับ ออกแนวสอนวัยรุ่นซึ่งอย่างที่ผมเคยบอกครับว่าอเมริกาทำหนังทำนองอุทธาหรณ์สอนใจแบบนี้บ่อยๆ และส่วนมากก็มักจะนำเอาเค้าโครงเรื่องจริงมาสร้างด้วย
พูดได้เต็มปากว่าผมชอบภาคนี้เป็นอันดับ 2 รองจากภาคแรก
หนังเบาสมองดูเอาเพลินอีกเรื่องของ Drew Barrymore ในยุคที่เธอกำลังขาขึ้น (หลังจากเล่นบทรับเชิญใน Scream ภาคแรกน่ะนะครับ) ช่วงนั้นงานเธอถือว่าชุกใช่เล่น ซึ่งเธอเองก็ไปได้ดีกับบทแบบนี้ด้วยน่ะครับ อย่างเรื่องนี้ก็ถือว่าบทเหมาะกับความสดใสสไตล์ Drew มากทีเดียว
สัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนดูครับว่าตัวหนังยังไงก็คงออกมาสนุกนั่นแหละ แต่จะสนุกมากระดับขึ้นหิ้งหรือสนุกน้อยก็ว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง
หลังจากผมร่าย Death Proof ของพี่ Quentin Tarantino ไปเรียบร้อยก็ถึงคราวหนังโหดซอมบี้โคโยตี้แข้งปืนกลของพี่น้องร่วมสาบานพี่ Quentin อย่างนาย Robert Rodriguez
สาวสวยเพื่อนซี้ 5 คนกำลังโดนใครบางคนไล่เชือดทีละคนๆ อย่างโหดเหี้ยม ซึ่งเป็นไปได้ครับว่าคนที่ไล่ทำร้ายพวกเธอนั้นจะเป็นเด็กหนุ่มจอมหงอ ที่พวกเธอเคยแกล้งไว้ให้ได้อายเมื่อสมัยยังเป็นเด็กๆ
รู้ไหมครับว่าหนังแนวพิศวาสฆาตกรรมเนี่ยก็มีสูตรเฉพาะอยู่เหมือนกัน นั่นคือ อย่าไว้ใจใคร ผู้ใดที่คิดว่าตนฉลาดล้ำแล้วมักถูกคนอื่นจัดการทุกทีไป หรือจะเรียกว่าหักมุมนิดหน่อยนั่นแหละ
เรื่องนี้ผมจำได้ว่าคว้าวีดีโอมาดูทันที หลังดู I Know What You Did Last Summer เสร็จ… ใช่ครับ ที่ดูนี่เพราะมีชื่อ Jennifer Love Hewitt แสดงล้วนๆ เลย (แหม เจตนาชัดเจนอะไรจะขนาดนั้น)
จิมมี่ แชนนอน (Chris O’Donnell) ชายหนุ่มที่จะเรียกว่าโชคดีหรือไม่ก็ไม่ทราบ เพราะเขาจะได้รับมรดกมูลค่า 100 ล้านจากปู่ของเขา แต่มีข้อแม้ว่า เขาต้องแต่งงานก่อนวันเกิดปีที่ 30 ของเขา และมันก็ใกล้เข้ามาเหลือเกิน อีกไม่กี่วันเอง