
วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้ผมจะนึกถึง Phone Booth เป็นระยะๆ ครับ อาจเพราะทั้งเรื่องนั้นและเรื่องนี้กำกับโดย Joel Schumacher ลีลาบางประการเลยมีความคล้ายคลึงกัน และโทนเรื่องก็ว่าด้วยคนที่ต้องกลายเป็นตัวประกันในพื้นที่จำกัดเหมือนกันด้วย
The Lost Boys ถือเป็นของดีแห่งยุค 80 ครับ เป็นหนังแวมไพร์วัยรุ่นที่ทำออกมาได้มันส์ สยอง ตื่นเต้น และผสมอารมณ์ขันลงไปแบบพอเหมาะ เป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การดูมากๆ ทีเดียว
ฮิลลารี่ โอนีล (Julia Roberts) สาวที่กำลังอยู่ในช่วงใจสลายเนื่องจากจับได้ว่าแฟนแอบมีคนอื่น เธอจึงตัดสินใจหางานทำเพื่อให้ใจไม่หวนไปย้อนคิดถึงเรื่องเก่าๆ โดยงานที่ว่าก็คือพยาบาลส่วนตัว คอยดูแลผู้ป่วยตามบ้าน และผู้ป่วยคนที่เธอต้องดูแลมีนามว่า วิกเตอร์ เก็ดเดส (Campbell Scott) ชายหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด
นี่คือหนังแนวสืบสวนสร้างจากนิยายของ John Grisham เจ้าพ่อนิยายแนวขึ้นศาลและกฎหมายชื่อดัง หลังจากผมเอา The Pelican Brief และ The Chamber มาแนะนำแล้ว ก็ขอตามทบด้วยเรื่องนี้ ที่จัดว่าสนุก เข้มข้น น่าติดตามกำลังดีกว่าสองเรื่องก่อนที่ผมพูดถึงไป
8MM ว่าด้วย นักสืบทอม เวลเลส (Nicolas Cage) ที่ถูกจ้างให้ไปสืบเกี่ยวกับหนังสนัฟฟ์ฟิล์ม (Snuff Film) ม้วนหนึ่ง ซึ่ง “สนัฟฟ์ฟิล์ม” คือชื่อของหนังประเภทหนึ่งครับ เป็นหนังที่มีฉากการฆ่าที่โหดเหี้ยมมากๆ และประเด็นคือมันไม่ใช่หนัง แต่มันคือการฆ่ากันจริงๆ คนที่ตายก็คือตายจริงๆ
ภาพยนตร์แนวแอ็กชันสไตล์ถนัดของผู้อำนวยการสร้าง Jerry Bruckheimer ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ CIA รุ่นเก๋านามว่า โอ๊คส์ (Anthony Hopkins) ต้องสูญเสียลูกน้องมือดี เควิน โป๊บ (Chris Rock) ไป ซึ่งพอดีว่าเควินกำลังปฏิบัติการสำคัญอยู่ ซึ่งหากอยากให้ปฏิบัติการดำเนินต่อไปได้ก็มีอยู่ทางเดียวนั่นคือต้องทำยังไงก็ได้ ที่จะหาคนที่หน้าเหมือนเควินมารับช่วงต่อ
เรื่องนี้ก็มันส์พะยะค่ะครับ เป็นการกลับมาที่โอเคมากของผู้กำกับ Joel Schumacher ที่หลังจากพี่แกทำ Batman & Robin ออกมาได้ไม่ดีนัก ก็แทบจะหมดอนาคตไปเลยครับ จนเรื่องนี้นี่แหละ ที่เขากลับมาคืนฟอร์มซะที
แล้ว Batman ภาค 4 ก็สร้างกันออกม […]
หลังจาก 2 ภาคแรกโด่งดังกันสุดๆ ก […]