
คุณคาดหวังอะไรจากหนังชุด Transporter ครับ ถ้าเป็นความมันส์ บู๊กระหน่ำโม้กระจายและลวดลายแสนเท่ห์ของพี่แฟรงค์ มาร์ติน (Jason Statham) ยอดนักส่งของท้านรกล่ะก็ คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ครับ หนังมันก็อุดมไปด้วยสิ่งเหล่านั้นน่ะแหละ
คุณคาดหวังอะไรจากหนังชุด Transporter ครับ ถ้าเป็นความมันส์ บู๊กระหน่ำโม้กระจายและลวดลายแสนเท่ห์ของพี่แฟรงค์ มาร์ติน (Jason Statham) ยอดนักส่งของท้านรกล่ะก็ คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ครับ หนังมันก็อุดมไปด้วยสิ่งเหล่านั้นน่ะแหละ
จะว่าไปแล้ว The Expendables 3 ยังถือว่าดูได้ตามสไตล์หนังบู๊ที่มีฉากแอ็กชันเน้นๆ ระเบิดเบิ้มๆ สาดกระสุนถี่ๆ ดนตรีเร้าๆ มุขฮาแทรกเป็นพักๆ เรียกว่าสูตรสำเร็จหนังบู๊ยุค 80 – 90 ถูกนำมายำไว้ในนี้ บวกด้วย Effect ที่ลงทุนอลังขึ้น ตามด้วยดาราขาลุยทั้งระดับตำนานและหน้าใหม่ มาร่วมกันบู๊แบบแน่นจอ
ผมฟินกับ The Expendables 2 ที่สุดในบรรดา 3 ภาคครับ
หลายคนรีเควสท์ให้ผมรีวิวเรื่องนี้ และผมก็คิดเสมอครับว่าถ้าเขียนออกมา มันคงไม่เชิงเป็นรีวิว แต่จะเป็นบทความแนว “คนชราออกมารำลึกความหลัง ตามด้วยการเชียร์ดารานักบู๊ที่เราโตมาพร้อมหนังของพวกเขา”
Wild Card ไม่ใช่หนังแอ็กชันแบบที่หลายๆ คนคิดครับ คือฉากแอ็กชันต่อยตีมันก็มีครับ แต่หนังไม่เน้นในจุดนั้นสักเท่าไร ส่วนมากจะเล่าไปในทางดราม่ามากกว่า
ดูตัวอย่างแล้วก็เตรียมใจเข้าไปเสพความเว่อร์วังแบบเต็มขั้นครับ ยิ่งทุนสร้างตั้ง $250 ล้าน มันก็ต้องจัดเต็มแอ็กชันและฉากทำลายล้างแบบระเบิดระเบ้อแน่นอน (พูดถึงรายได้ ตอนนี้ทั่วโลกโกยไปแล้ว $531 ล้าน ถึงจุดคุ้มทุนแล้วครับ ไม่เกินสัปดาห์นี้ก็จะได้งบโฆษณาคืน และเข้าสู่โซนกำไรแน่นอน)
ฉากที่ผมอยากดูที่สุดใน Fast and Furious 7 คือฉากสรุปส่งท้ายบทของ Paul Walker ครับ
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่ดาราหนังบู๊เลือกเล่นบทที่เหมาะกับเขา
ไรอัน (Chris Evans) จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธออ้างตัวว่าชื่อ เจสสิก้า มาร์ติน (Kim Basinger) พร้อมเล่าว่าเธอถูกลักพาตัวมา ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนที่จับเธอมานั้นต้องการทำร้ายเธอรวมถึงทำร้ายสามีและลูกของเธอด้วย
แนวคิดเรื่องมิติคู่ขนานนั้นผมก็คุ้นเคยมานานแล้วล่ะนะครับ ซีรี่ส์ที่ทำให้ผมคุ้นเคยแนวคิดนี้ก็คือ Sliders ที่เหล่าตัวเอกต้องเดินทางข้ามมิติคู่ขนาน หาทางกลับมิติดั้งเดิมที่ตัวเองอยู่ ก็เลยต้องไปเผชิญกับโลกในมิติอื่นๆ ซึ่งมีทั้งที่ปกติและแปลกกว่าโลกมนุษย์เดิมที่พวกเขาเคยอยู่