ภาคต่อของหนังสุดน่ารักและเหมาะสำหรับเด็กแบบสุดๆ ครับ
ภาคต่อของหนังสุดน่ารักและเหมาะสำหรับเด็กแบบสุดๆ ครับ
ว่าตามจริงหนังเรื่องนี้ก็ออกแนว Mission: Impossible ว่าด้วยกลุ่มสายลับที่ลงสนามไปสืบเรื่องแผนค้าอาวุธ แล้วก็หาทางป้องกันไม่ให้อาวุธนั้นหลุดรอดไปอยู่ในมือของคนร้าย
ความรู้สึกที่ผมมีต่อ Wonka มันอยู่ในระดับที่เป๊ะๆ กับกับความรู้สึกที่มีต่อ Fantastic Beasts ภาคแรก เลยครับ รู้สึกว่าหลายอย่างมาทางเดียวกัน เริ่มจากบรรยากาศสภาพของเมือง ถนนหนทาง ช่องไฟต่างๆ นี่ให้อารมณ์คล้ายกัน ตามด้วยเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยชายคนหนึ่งที่เดินทางมาจากต่างเมือง หอบกระเป๋ามาหนึ่งใบและมาพร้อมมนต์วิเศษบางอย่างที่จะสร้างผลกระทบหรือความเปลี่ยนแปลงบางอย่างให้กับเมืองแห่งนี้
The Gentlemen หนังเมามันส์ตามสไตล์ Guy Ritchie ที่ไม่ต้องเล่าอะไรมากครับ ง่ายๆ เลยคือใครที่ชื่นชอบงานเก่าๆ ที่เก๋าๆ กวนๆ ของพี่แกอย่าง Lock, Stock and Two Smoking Barrels และ Snatch ก็จัดเรื่องนี้ได้เลย เพราะลีลาของหนังก็จะประมาณเดียวกันนั่นแหละ
สิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้ ผมว่าผมพูดมาแล้วหลายรอบครับ และคงจะได้พูดอีกไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังดูหนังอยู่ นั่นก็คือ “บางทีคนดูหนังก็ไม่ได้ต้องกาอะไรที่แปลกใหม่หรอกครับ บางทีแค่หนังเอาสูตรเดิมๆ มาเล่าให้เข้าท่า ดูแล้วเพลินตอบโจทย์ แค่นี้ก็โอแล้ว”
The Man from U.N.C.L.E. รีเมคมาจากซีรี่ส์แนวสายลับสุดฮิตเมื่อยุค 60 (ร่วมรุ่นกับ Mission: Impossible นั่นแหละครับ) โดยจริงๆ โปรเจคท์นี้ร่ำๆ ว่าจะทำมาเป็นสิบปีแล้วครับ แต่หลายๆ อย่างก็ไม่ลงตัวสักที
ว่าตามจริงผมชอบพล็อตของ The Rewrite ครับ เพราะถ้าปรุงออกมาดีๆ ล่ะก็ หนังจะให้สาระแก่ชีวิต ให้แง่คิดต่อหัวใจ และให้กำลังใจทั้งกับคนที่กำลังมีฝันและคนที่ความฝันกำลังจะหมดอายุลงไป
มาครับ เรื่องนี้จะเล่าง่ายๆ ร่ายสั้นๆ เพราะมันไม่ค่อยจะมีอะไรให้พูดถึงเท่าไร
แหม ชื่อเรื่องนี่ยาวสิ้นดีเลยนะครับ แต่ต้องยกให้เป็นหนึ่งในหนังที่ตั้งชื่อเรื่องได้ตรงเผงกับเหตุการณ์ในหนังอย่างที่สุด
เปลี่ยนแนวบ้างครับ รู้สึกตัวเองขยันเล่าหนังสยองจัง ขนาดหนังฮาก็ยังไม่พ้นแนวล้อเลียนหนังสยอง วันนี้ต้องเริ่มอะไรใหม่ๆ แล้วครับ อีกอย่างต้องเริ่มเอาหนังดังๆ มาพูดถึงให้เยอะหน่อย พูดแต่หนังที่ชาวบล็อคไม่รู้จักทั้งนั้นเลยตู