
หลังจากฉบับญี่ปุ่นสร้างความโด่งดังและสะพรึงไปทั่ว อเมริกาก็ไม่รอช้าครับ นำเอาไปรีเมคทันที จะว่าไปช่วงนั้นมุขก็ตันพอดีด้วย ตอนนั้นฮอลลีวู้ดนี่เอะอะก็มารีเมคหนังเอเซียครับ ตอนนี้แม้จะซาๆ ลงไปบ้างแต่ก็ยังมีอีกเป็นระยะๆ อย่าง the Eye ก็โดนเอาไปเหมือนกัน
หลังจากฉบับญี่ปุ่นสร้างความโด่งดังและสะพรึงไปทั่ว อเมริกาก็ไม่รอช้าครับ นำเอาไปรีเมคทันที จะว่าไปช่วงนั้นมุขก็ตันพอดีด้วย ตอนนั้นฮอลลีวู้ดนี่เอะอะก็มารีเมคหนังเอเซียครับ ตอนนี้แม้จะซาๆ ลงไปบ้างแต่ก็ยังมีอีกเป็นระยะๆ อย่าง the Eye ก็โดนเอาไปเหมือนกัน
ตอนแรกนั้นผมกะจะขึ้นประโยคแรกของรีวิวว่า “การทำหนังแอ็กชันแนวคาวบอยตะวันตกเป็นเรื่องยาก” แต่พอนึกถึงความอร่อยสาแก่ใจใน Django Unchained เลยขอถอดประโยคที่ว่าออกจากสารบบในทันที
นี่คือผลงานหนังโรงใหญ่เรื่องที่ 3 จากค่าย DreamWorks ที่ตอนนั้นยังเป็นน้องใหม่ในวงการอยู่ และชาวบ้านก็จับตากันว่าค่ายนี้จะอยู่รอดแค่ไหน เพราะคนอยู่เบื้องหลังคือ Steven Spielberg เลยนะครับ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าพ่อมดฮอลลีวู้ดเจ้านี้จะไปได้ดีแค่ไหน
บทสรุปของไตรภาค (แต่ยังไม่ใช่ตอนสุดท้าย) ของหนังชุดโจรสลัดที่ดังที่สุดในโลกน่ะนะครับ เมื่อเหล่าโจรสลัดที่นำโดย กัปตันเฮคเตอร์ บาร์บอสซ่า (Geoffrey Rush), วิลล์ เทอร์เนอร์ (Orlando Bloom) และ อลิซาเบธ สวอนน์ (Keira Knightley) ต้องเดินทางไปยังสุดขอบโลกเพื่อช่วยกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ (Johnny Depp) กลับมาจากโลกแห่งความตาย
หนังภาคต่อของหนังผจญภัยที่ภาคแรกทำเอาไว้ไม่เลวครับ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบมากมายนะ คือภาคแรกก็สนุกแหละครับ แต่รู้สึกเลยว่ามันเป็นหนัง Disney ตรงที่มันจะกั๊กๆ ทำอะไรก็แบบยั้งๆ ไม่เต็มที่เหมือนพวก The Mummy ที่ใส่อะไรลงมาเต็มที่กว่า
ถ้าพูดถึงหน้าหนังล่ะก็ เรื่องนี้เข้าทางผมอย่างแรงล่ะครับ ชอบนักล่ะหนังประเภทตัวเอกตามล่าปมปริศนาในสถานที่แปลกๆ แต่ยิ่งสืบยิ่งค้นกลับพบแต่ความลึกลับชวนสะพรึง (อารมณ์เหมือนอ่านนิยายเปิดไปทีละหน้า)
หนังแนวโจรสลัดนั้นจะว่าไปแล้วเรา […]