อีกหนึ่งหนังที่บอกได้เลยว่า “ไม่ใช่สำหรับทุกคน” ครับ อย่างผมนี่ชอบนะ แต่ภรรยาผมดูแล้วงงว่านี่มันหนังอะไร ภาพที่เห็นบนจอก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีคนเดินผ่านไปมาคุยกันตลอดเรื่อง จนเธอถามผมว่านี่มันหนังเกี่ยวกับอะไรกันแน่นี่
อีกหนึ่งหนังที่บอกได้เลยว่า “ไม่ใช่สำหรับทุกคน” ครับ อย่างผมนี่ชอบนะ แต่ภรรยาผมดูแล้วงงว่านี่มันหนังอะไร ภาพที่เห็นบนจอก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีคนเดินผ่านไปมาคุยกันตลอดเรื่อง จนเธอถามผมว่านี่มันหนังเกี่ยวกับอะไรกันแน่นี่
พูดแบบไม่อ้อมค้อมคือค่อนข้างเฉยกับภาคนี้ครับ ไม่ได้รู้สึกสนุกหรือครื้นเครงแบบที่มักจะรู้สึกเสมอยามดู Ghostbusters ภาคก่อนๆ
ระหว่างดู Ghostbusters: Afterlife ใจก็คิดครับว่าโจทย์ในการทำหนังภาคต่อประเภทที่ระยะห่างระหว่างภาคก่อนกับภาคนี้ยาวนานเกิน 10 ปีขึ้นไป มันย่อมต่างจากการทำภาคต่อแบบห่างกันแค่ไม่กี่ปี
นั่งดู Stranger Things ปี 4 จบตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ลงสตรีม 2 ตอนสุดท้ายครับ ตอนแรกกะดูจบแล้วจะร่ายเลยแบบที่ทำทุกปี แต่พอดูจบปีนี้แล้วก็บังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมอยู่ในใจ จนผมตัดสินใจทิ้งความรู้สึกไว้หนึ่งคืน ให้ความคิดตกตะกอนเรียงตัวว่าตกลงแล้วผมรู้สึกอย่างไรกับซีซั่นนี้บ้าง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา บอกเลยแล้วกันครับว่าถ้าใครชอบปีแรก ต้องตามดูต่อปี 2 โดยพลัน ไม่ต้องรออ่านอะไรแล้ว ส่วนใครไม่เคยดูมาก่อนก็ขอให้ลองทำเช็คลิสต์กับตัวเองก่อนครับ ว่าท่านนั้นชอบหนังลึกลับ+สยอง+ไซไฟที่มาพร้อมอารมณ์ Retro หรือเปล่า?
ออกตัวเลยว่า ผมเขียนบทความนี้ในฐานะ คนที่เคยเผชิญกับ “ความกลัว” ที่เคยมีต่อเพนนีไวส์เมื่อประมาณ 25 ปีก่อน…
ผมนี่หาเรื่องใส่ตัวโดยแท้ครับ ดันเริ่มดูซีรี่ส์นี้ตอนสองทุ่มกว่าๆ กะว่าดู 2 ตอนก็พอ… แล้วเป็นไงล่ะ พอเครื่องติดเท่านั้นล่ะ ดูลากยาวจนครบ 8 ตอน นอนประมาณตีสามเห็นจะได้ ^_^