นี่คือหนังที่ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นผลงานที่ทำกำไรให้ค่าย Hammer Films มากที่สุดครับ
นี่คือหนังที่ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นผลงานที่ทำกำไรให้ค่าย Hammer Films มากที่สุดครับ
เรื่องของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 4 คนที่ได้รับเชิญให้มาเป็นแขกของปราสาทแดร็กคูล่า โดยชายผู้ดูแลปราสาทที่ชื่อโคลฟ์ (Philip Latham) เขาทั้ง 4 คนได้รับการดูแลอย่างดีครับ ทุกคนก็คิดว่าโชคดีแล้วที่มีคนเชิญมาพักที่ปราสาท ได้ทานอาหาร และนอนในห้องที่ดีอย่างที่สุด
ภาคแรกดังก็ต้องมีภาคต่อครับ กับตำนานบทต่อมาของหนังชุด Dracula ที่สร้างโดย Hammer Films ซึ่งยังได้ Terence Fisher มากำกับเช่นเคย และได้ Peter Cushing หวนกลับมารับบท ดร. แวน เฮลซิ่งอีกครั้ง
ได้เวลาสำหรับการร่ายหนังชุดสยองขวัญเก่าๆ แบบยาวๆ อีกแล้วนะครับ และเรื่องนี้มีหลายภาคให้พูดถึงแน่นอนกับตำนานแดร็กคูล่าฉบับ Hammer Films อันเป็นฉบับที่มีคนรู้จักและชื่นชมมากที่สุดรองจากฉบับที่ Bela Lugosi เคยแสดงไว้
นี่น่าจะเป็นหนังดีที่ผมพิมพ์รายละเอียดรีวิวน้อยที่สุดเรื่องหนึ่งเลยล่ะครับ
ยังไม่จบครับสำหรับเรื่องราวของเหล่ามอนสเตอร์เก่าแก่แห่งค่าย Universal
นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่ง ดร. กุสตาฟ นีมานน์ (Boris Karloff) กับ แดเนี่ยล (J. Carrol Naish) ข้ารับใช้หลังค่อมได้หนีออกจากที่คุมขังพร้อมด้วยความแค้น และสิ่งแรกที่เขาคิดจะทำเมื่อหนีออกมาคือ การนำเอาจอมผีดิบ แดร็กคูล่า (John Carradine) มาใช้ในงานล้างแค้น
เคาท์ อเลอคาร์ด (Lon Chaney Jr.) สุภาพบุรุษฮังกาเรียนผู้ลึกลับ เดินทางมายังอเมริกาตามคำเชิญของ แคทเธอรีน คอล์ดเวลล์ (Louise Allbritton) แต่แล้วจู่ๆ พ่อของแคทเธอรีนก็มาเสียชีวิตไปด้วยอาการหัวใจวาย ตามด้วยการตัดสินใจสายฟ้าแล่บของแคทเธอรีนที่คิดจะแต่งงานกับเคาท์ อเลอคาร์ด ทั้งๆ ที่เธอก็มีคนรักอย่าง แฟรงค์ (Robert Paige) เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
นี่คือภาคต่อของหนัง Dracula เวอร์ชั่นต้นฉบับ (ปี 1931) นะครับ
พอดีผมก็ชอบอยู่แล้วล่ะหนังตลกล้อเลียนแบบนี้ ยิ่งมีลุง Leslie Nielsen มาเล่นนำด้วยแล้วก็อยากจะพูดถึงให้ครบๆ ครับ เพราะผมว่าก็พูดถึงงานแกไปหลายเรื่องแล้ว และก็ชอบการเล่นบทตลกของแกเป็นการส่วนตัวด้วย เลยขอพูดซะหน่อยนะครับ