หนังแนวฝนตกขี้หมูไหลนี่การจะทำให้ออกมาดีได้นี่ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะครับ เพราะถ้าเล่าไม่ดีก็จะกลายเป็นออกมามั่ว ดูแล้วมึนแทนที่จะมันส์ หรือไม่ก็จะไม่น่าสนใจแบบตลอดรอดฝั่ง ดูพอได้แค่ตอนแรกๆ แต่พอผ่านไปสักพักกราฟก็อาจจะนิ่งและตกลงในที่สุด
The Lost City เรื่องนี้ตั้งใจจะดูเพื่อผ่อนคลายเลยครับ ไม่คาดหวังอะไรมาก ขอเพียงดูสนุกเพลินก็พอ แล้วผลที่ได้ก็ตามนั้นครับ
ถ้าตีความจากชื่อไทยแล้วอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นหนังแอ็กชันน่ะนะครับ แต่จริงๆ แล้วนี่คือหนังดราม่าเข้มข้นที่แม้จะไม่มีแอ็กชันมันส์ๆ แต่ก็มีเนื้อหาดีๆ และมีอะไรให้ลุ้นไม่น้อยเหมือนกัน
Fury ถือเป็นหนังแอ็กชันกลางไฟสงครามที่คอหนังแนวนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
The Counselor เป็นหนังที่ทีมดารานี่เกรดเอบวกเลยครับ (Michael Fassbender, Penélope Cruz, Cameron Diaz, Javier Bardem และ Brad Pitt) อีกทั้งผู้กำกับจริงๆ ก็เกรดเอไม่น้อยหน้ากัน (Ridley Scott)
เรื่องนี้ผมสนใจตั้งแต่ก่อนเข้าโรงแล้วครับ เพราะหนังมาพร้อมพล็อตที่น่าสนใจดี คิดดูสิครับ เมื่อวายร้ายที่มีบทบาททำลายโลกและชนกับซูเปอร์ฮีโร่ ดันต้องมาออกโรงพิทักษ์โลกแทน ซึ่งวายร้ายที่ว่าก็มีนามว่า เมกะมายด์ (Will Ferrell) ครับ เป็นคู่อาฆาตของฮีโร่ประจำเมืองอย่าง เมโทรแมน (Brad Pitt) มานานแสนนาน
ผมชอบโอเชี่ยนภาคนี้นะครับ ดีกรีความสนุกถือว่ามากกว่าภาค Ocean’s Twelve และเป็นรองจากภาค Ocean’s Eleven อยู่หน่อยหนึ่ง ว่าง่ายๆ ก็คือสนุกนั่นล่ะครับ
สมัยแรกๆ ที่ Brad Pitt เข้าวงการผมรู้สึกว่าพี่ท่านมีลักษณะคล้าย Robert Redford ตอนหนุ่มๆ ทั้งท่าทาง หน้าตาหล่อๆ และเป็นพวกมีความมั่นใจไม่ยอมใคร ผมก็ไม่แปลกใจนะถ้าสองคนนี้จะมาเล่นเป็นพ่อลูกกันน่ะ (แต่เรื่องนี้เปล่าครับ)
จัดเป็นหนังซอมบี้เน้นบันเทิงที่ทำได้สนุกน่าพอใจอีกเรื่องครับผม แต่ก็ยอมรับครับว่าตอนแรกผมไม่ได้ตั้งหน้าตาตั้งรอดูสักเท่าไร เหมือนช่วงนั้นผมกำลังอิ่มซอมบี้เพราะ The Walking Dead อยู่
ใช่แล้วครับ เรากลับมาที่หนังสยองไล่ฆ่าอีกครั้ง แต่อ้ะ อ้ะ แม้มันจะไม่ได้โด่งดัง แต่อย่างน้อยนะครับมันก็เป็นผลงานสมัยแรกๆ ของพระเอกหนุ่มชื่อดังในตอนนี้… พี่ Brad Pitt ไงครับ
หมื่นทิพ's Review 