ว่าตามจริง The Perfect Storm ไม่ใช่หนังภัยพิบัติที่สดใหม่อะไรมาก แต่ความเด็ดของมันคือ การเอาสูตรดั้งเดิมของหนังแนวนี้มาปรุงได้อย่างพอเหมาะพอดี
ว่าตามจริง The Perfect Storm ไม่ใช่หนังภัยพิบัติที่สดใหม่อะไรมาก แต่ความเด็ดของมันคือ การเอาสูตรดั้งเดิมของหนังแนวนี้มาปรุงได้อย่างพอเหมาะพอดี
ผลข้างเคียงของการดู TRON: Legacy คือคุณจะรู้สึกว่าตัวเองผิวขาววิ้งริงโก้อีโต้บั้มขึ้นมาโดยไม่ต้องใช้ไวท์เทนนิ่งใดๆ (5555)
นี่ก็เข้าข่ายหนังที่ผมไม่ได้สนใจอะไรก่อนดู แต่พอได้ดูเท่านั้นแหละ ถึงแก่ความมันส์
ตามปกติหนังที่มีข่าวลือว่าผู้กำกับกับนักแสดงไม่กินเส้นกันมักจะออกมาไม่ใคร่จะลงตัวอย่างที่เขาว่า เพราะจังหวะหนังจะขาดความกลมกล่อมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ยิ่งหนังอันไหนที่นักแสดงเกิดมีอิทธิพลจนสามารถถีบผู้กำกับออกจากเก้าอี้แล้วเอาหนังมาตัดต่อเอง กรณีหลังนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ เละเทะไปหลายเรื่องแล้ว… แต่กับ Payback คงเป็นข้อยกเว้นหนึ่ง
ผมจำกัดความหนังเรื่องนี้ได้สองคำสั้นๆ เลยว่า “น่า ดู!”
ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิกอีกเรื่องของฮอลลีวู้ดนะครับ สร้างออกมาตอนที่หนังมะกันกำลังฮิตเรื่องราวมนุษย์ต่างดาวบุก
นาทีแรกที่รู้ว่าพี่ Robin Wliiams จะผันตัวเองจากดาราตลกกลายเป็นดาราแนวคุณภาพที่นอกจากจะไม่ใช่พระเอกแล้วยังเป็นตัวร้ายอีกต่างหาก แว่บแรกก็ดีใจนะครับที่จะได้เห็นพี่แกในบทบาทใหม่ แต่อีกใจก็กลัวครับ กลัวแทนพี่ท่านน่ะแหละว่าจะรอดสันดรได้หรือไม่ เพราะตลาดของหนังแนวระทึกผสมโรคจิตแบบนี้มันย่อมไม่กว้างเท่าตลาดหนังตลกที่พี่แกเคยครองอยู่ตั้งหลายสิบปี
ผมทึ่งพอสมควรตอนรู้ว่านี่คืองานกำกับคั่นเวลาของ Robert Zemeckis
รีเมกจากซีรี่ส์เก่าอีกแล้วครับ เรื่องจะออกแนว Mission: Impossible เวอร์ชันพระเอกซุ่มซ่ามสุดขีด ซึ่งก็ไม่ใช่ของใหม่ซะทีเดียว เราเองก็คุ้นๆ แนวนี้มาจาก Johnny English แล้วก็ The Pink Panther
ผลงานกำกับของ John Landis นะครับ รายนี้เป็นอีกหนึ่งนักสร้างหนังแนวขำที่ดังพอตัวช่วงยุค 80 (แต่ยุคนี้แทบไม่ต้องพูดถึงนะครับ ชื่อแกหายไปจากวงการหนังใหญ่แล้ว ตอนนี้ไปหาทางคืนชีพอยู่ในซีรี่ส์ Masters of Horror)