อย่างที่บอกล่ะครับว่าผมนั้นชอบหนังไซไฟสมัยเก่าๆ ขาวดำๆ รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ดีน่ะครับ แม้ Effect เทคนิค หรือการเดินเรื่องอาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร เนื้อหาก็เดาได้ แต่มันชอบในความพยายามนำเสนอ พยายามเอาอะไรใหม่ๆ มาขึ้นจอน่ะครับ
อย่างที่บอกล่ะครับว่าผมนั้นชอบหนังไซไฟสมัยเก่าๆ ขาวดำๆ รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ดีน่ะครับ แม้ Effect เทคนิค หรือการเดินเรื่องอาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร เนื้อหาก็เดาได้ แต่มันชอบในความพยายามนำเสนอ พยายามเอาอะไรใหม่ๆ มาขึ้นจอน่ะครับ
แอน คอลลินส์ (Barbara Eden) มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เธอมีอารมณ์รุนแรง เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง จนสามีของเธอ (George Grizzard) สงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
บีแมน (Nicolas Cage) และ เฟลสัน (Ron Perlman) สองนักรบครูเสดที่ตัดสินใจออกจากการรบที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าเพื่อกลับบ้านเกิด แต่พอเขาไปถึงก็พบว่าเมืองเต็มไปด้วยโรคระบาด ซึ่งชาวเมืองเชื่อกันว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง (Claire Foy) ที่เป็นแม่มด
ตอนที่ 5 ของหนังซอมบี้ตระกูล of the Dead ของลุง George A. Romero กับเหล่านักศึกษาวิชาภาพยนตร์ที่กำลังถ่ายหนังสยองขวัญว่าด้วยมัมมี่กันอยู่ แต่แล้วพวกเขาก็ได้รับข่าวว่าตอนนี้ในเมืองกำลังมีคนตายลุกขึ้นมากัดกินคนเป็น การถ่ายหนังเลยต้องยุติครับ พวกเขาตัดสินใจแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความหวังว่าเรื่องที่ได้ยินมานั้น จะเป็นเพียงเรื่องแหกตา
อาจเรียกได้ว่าเป็นหนังรุ่นพ่อของ Vanishing on 7th Street ครับ เมื่อรังสีปริศนาจากดวงอาทิตย์ส่องมายังโลก ส่งผลให้คนที่กระทบแสงต้องสลายกลายเป็นฝุ่นผง มนุษย์ส่วนใหญ่จึงสลายไปหมด เหลือเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ที่ต้องพยายามปรับตัวรับมือกับโลกที่ไร้ผู้คน และคนที่ยังเหลืออยู่ซึ่งบางคนก็เสียสติ บางคนก็เปลี่ยนไป ทำให้โลกนี้นอกจากจะไร้คนแล้ว ยังอันตรายอีกด้วย
ก็ตามคำขอนะครับ ให้รีวิวภาคต่อของ The Ring ฉบับฮอลลีวู้ดก็ได้เลย ไม่ยากเย็น
ถ้าให้ว่ากันจริงๆ หนังที่สร้างจากเกม Resident Evil (หรือชื่อคุ้นเคยสำหรับบ้านเราว่า Bio Hazard) มันก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าเดิม มันก็วนอยู่กับฝูงซอมบี้, ผีชีวะกลายพันธุ์, บริษัทอัมเบรลล่าที่เอาแต่จะทำกำไรทั้งที่โลกหายนะจนไม่รู้จะหายนะยังไงแล้ว, กลุ่มผู้รอดชีวิตที่มักจะเจอหายนะชุดใหญ่ทันทีที่เจ๊อลิซ (Milla Jovovich) นางเอกประจำเรื่องเฉียดกรายเข้ามาในชีวิต (ก่อนหน้านี้ก็อยู่กันดีๆ พอเจ๊แกมางานเข้าทุกรอบ 555)
จะว่าไปแล้ว The Expendables 3 ยังถือว่าดูได้ตามสไตล์หนังบู๊ที่มีฉากแอ็กชันเน้นๆ ระเบิดเบิ้มๆ สาดกระสุนถี่ๆ ดนตรีเร้าๆ มุขฮาแทรกเป็นพักๆ เรียกว่าสูตรสำเร็จหนังบู๊ยุค 80 – 90 ถูกนำมายำไว้ในนี้ บวกด้วย Effect ที่ลงทุนอลังขึ้น ตามด้วยดาราขาลุยทั้งระดับตำนานและหน้าใหม่ มาร่วมกันบู๊แบบแน่นจอ
ตอนที่ 2 ของหนังชุดแวมไพร์คาร์มิลล่า หรือ Karnstein Trilogy ที่ครั้งนี้เหตุยังคงเกิดที่รัฐสติเรีย ในประเทศออสเตรียเช่นเคย เมื่อทายาทแห่งตระกูลคาร์นสไตน์ปลุกชีพแวมไพร์คาร์มิลล่า (Yutte Stensgaard) ขึ้นมาอีกครั้ง ความสยองครั้งใหม่จึงเริ่มที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งคาร์มิลล่าเลือกที่จะแทรกซึมเข้าไปหาเหยื่อสาวบริสุทธิ์ และครั้งนี้ใครจะเป็นผู้หยุดยั้งเธอได้
อมีเลีย แอร์ฮาร์ท ชื่อนี้หลายท่านอาจจะคุ้นเคยนะครับ เพราะเคยมีการกล่าวถึงใน Night at the Museum: Battle of the Smithsonian ซึ่งเธอมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในฐานะนักบินหญิงคนแรกที่สามารถบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้สำเร็จ