ดูแล้วสรุปใจความได้เลยครับว่ามันคือการเอา Superman มาบวกกับ The Omen ได้ออกมาเป็นหนังสยองที่ตั้งคำถามใส่หน้าเราว่า “หากซูเปอร์แมนไม่ใช่คนดีล่ะ?”
ดูแล้วสรุปใจความได้เลยครับว่ามันคือการเอา Superman มาบวกกับ The Omen ได้ออกมาเป็นหนังสยองที่ตั้งคำถามใส่หน้าเราว่า “หากซูเปอร์แมนไม่ใช่คนดีล่ะ?”
ตอนแรกตอนได้ข่าวว่าจะสร้างก็รู้สึกอยากดูอยู่ครับ ครั้นพอได้ดูตัวอย่างแรกก็เริ่มรู้สึกเฉยๆ รู้สึกเหมือนว่าหนังมันดูเรียบๆ เรื่อยๆ ยังไงพิกล (ดูไม่ค่อยมีสีสันหรือลูกเล่นน่ะครับ) แต่ของแบบนี้ก็ต้องดูแบบเต็มเรื่องถึงจะสรุปได้ว่าเราจะโอเคกับมันหรือไม่อย่างไร
ภาค 3 ของหนังชุด Mystery 101 ครับ
พออ่านจากชื่อเรื่องแล้ว ผมก็คิดไปว่าหนังน่าจะเกี่ยวกับคืนหนึ่งบนรถไฟที่ชายหญิงแปลกหน้าได้มารู้จักกันและแบ่งปันเรื่องราวในชีวิตแก่กัน (แบบ Before Sunrise) แต่พอได้ดูนี่ไปคนละเรื่องเลยครับ ไม่ใช่แบบที่คิดเลย
ภาค 2 ของหนังชุด Mystery 101 ครับ หนนี้ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญวรรณกรรมสืบสวน เอมี่ วินสโลว์ (Jill Wagner) มาร่วมงานกำกับละครเวทีครับ แต่แล้วเธอก็พบว่านักแสดงนำหญิงของเรื่องกำลังถูกปองร้ายหมายชีวิต เธอเลยต้องพลิกหลักฐานตามหาความจริง ก่อนที่คนร้ายจะลงมือก่อการฆาตกรรม
ไอด้า (Bailee Madison) หนูน้อยจอมแสบที่อาศัยอยู่กับแม่ (Alicia Witt) แต่ในใจเธอก็อยากจะเจอพ่อสักครั้งครับ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อมากนัก นอกจากว่าเขาน่าจะเป็นนักขี่ม้าโรดิโอ
เข้าทางผมอีกแล้วครับหนังเรื่องนี้ ประเภทหนังสยองเรื่องสั้นหลายๆ อัน in 1 แบบนี้ มีมาเมื่อไรก็อยากดูทุกที จะดีไม่ดีก็ค่อยว่ากันครับ แต่ยังไงก็ต้องดูเพราะแนวนี้ชอบอยู่แล้ว
ขอออกตัวตามระเบียบครับว่าผมนั้นไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้โปเกมอนแต่อย่างใด เคยดูหนังอยู่ 2 เรื่อง เกมก็ไม่เคยโหลดมาเล่น ตอนที่เขาฮิตจับโปเกมอนกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้นก็ไม่ได้เล่นกับเขาเลย ได้แต่เห็นเพื่อนขับรถไล่ล่าตามจับมอนสเตอร์อย่างเมามันส์
การจะพูดถึงหนังเรื่องนี้คงต้องแยกอารมณ์ออกเป็น 2 ห้วง ครับ ห้วงหนึ่งก็คือความรู้สึกที่มีต่อตัวหนัง กับอีกห้วงหนึ่งก็คือความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาพอได้รับรู้ว่าเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้มันเกิดความไม่ลงรอยกันสักเท่าไร ระหว่างผู้กำกับ Tim Miller กับผู้สร้างต้นตำนานอย่าง James Cameron
ว่าตามจริงคือรู้สึกเป็นห่วงหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนออกฉายแล้วครับ ห่วงว่าจะไปได้ไกลแค่ไหนบน Box Office เพราะจุดที่หนังพยายามขายอย่าง CG Will Smith วัยหนุ่มนั้นมันไม่ใช่ของใหม่อะไรแล้ว และหนังประเภท “ตัวเองไล่ล่าตัวเอง” ก็เคยมีคนทำออกมาแล้ว (เช่น Looper – ซึ่งที่ทำได้ดีซะด้วย) ก็เลยออกแนวห่วงครับว่าหนังจะได้ทุนคืนไหม (เพราะลงทุนไปเกือบ $140 ล้าน)