ผมจัดเรื่องนี้ไป 2 รอบ ไม่ใช่เพราะชอบอะไรมากมายหรอกครับ แต่ดูเพื่อเอามันส์ อยากดูกระบวนท่าหนึ่งรุมแสนเอาความสะใจ ซึ่งผมว่ามันก็ตอบโจทย์บันเทิงพอได้อยู่เหมือนกัน
ผมจัดเรื่องนี้ไป 2 รอบ ไม่ใช่เพราะชอบอะไรมากมายหรอกครับ แต่ดูเพื่อเอามันส์ อยากดูกระบวนท่าหนึ่งรุมแสนเอาความสะใจ ซึ่งผมว่ามันก็ตอบโจทย์บันเทิงพอได้อยู่เหมือนกัน
สรุปพล็อตง่ายๆ เลยก็คือ มีการระบาดของทีไวรัสเกิดขึ้นในเมืองซานฟรานซิสโกครับ ส่งผลให้ ลีออน เคนเนดี้, จิลล์ วาเลนไทน์, คริส และแคลร์ เรดฟิลด์ และรีเบคค้า แชมเบอร์สต้องผนึกกำลังกันยับยั้งภัยพิบัติครั้งนี้
และแล้วตี๋เหรินเจี๋ยก็ได้เผชิญกับซอมบี้ครับงานนี้
ออกตัวว่าไม่ถึงขั้นเป็นแฟนของทอม แอนด์ เจอร์รี่ครับ คือเคยดูบ้างสมัยเด็กๆ แล้วก็เอิ้กอ้ากไปตามเรื่อง ครั้นพอมาดูฉบับหนังใหญ่ก็จัดว่าสนุกพอเพลินๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แต่พูดก็พูดเถอะว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมดูหนังเรื่องนี้จนจบ คือเธอคนนี้คนเดียว Chloë Grace Moretz ครับ
หนังมีความตั้งใจจะเป็นตอนต่อจากภาคต้นฉบับเมื่อปี 1992 ครับ ซึ่งผลที่ออกมาก็ถือว่าโอเคอยู่
มาอีกหนึ่งแล้วครับ สำหรับเรื่องราวลำดับที่ 7 ของหนังชุดนี้ ซึ่งก็แบ่งเป็น 6 เรื่องสั้นครับ โดยมีตอนหลักที่จะเล่าคั่นแต่ละตอน บวกกับอีก 5 ตอนสั้น ซึ่งก็มีดังนี้
เรื่องราวของ มาไซ (Burt Lancaster) นักรบชนเผ่าอาปาเช่คนสุดท้ายที่ไม่ยอมก้มหัวให้คนขาว อันนำมาสู่การตามล่าทั้งจากคนขาวและคนเผ่าอาปาเช่ที่ผันตัวไปเข้ากับฝ่ายคนขาว
เจค็อบ อีวิง (Jason Robards) ต้องการครอบครองที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของ แฟรงค์ แอทเธิร์น (James Caan) และ เอลล่า คอนเนอร์ส (Jane Fonda) เพื่อเอาพื้นที่นั้นมาสร้างความมั่งคั่งให้ตนเอง แต่เมื่อแฟรงค์และเอลล่าจับมือร่วมกันสู้ เจค็อบก็เลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจัดการทั้งสองให้พ้นทาง
โอลิเวีย ลอว์เรนซ์ (Meg Tilly) คือสาวน้อยทายาทมรดกร้อยล้านที่เพิ่งกลับบ้านหลังเรียนจบ แล้วเธอก็ได้เจอกับ ทิม เวเล็น (Rob Lowe) หนุ่มหล่อผู้สามารถกุมหัวใจเธอได้ แต่ทิมเข้าหาโอลิเวียด้วยความรักจริงๆ หรือเพราะว่าเธอร่ำรวยกันแน่?
นายตำรวจแจ็ค เมอร์ฟี่ (Charles Bronson) โดนใส่ความว่าฆ่าภรรยา และผู้อยู่เบื้องหลังก็คือ โจแอน ฟรีแมน (Carrie Snodgress) อาชญากรผู้มีความแค้นต่อเขา แจ็คเลยต้องหาทางสืบหาความจริงโดยที่มีโจรสาวอย่างอาราเบลล่า แม็คกี (Kathleen Wilhoite) ที่เผอิญโดนจับใส่กุญแจมือติดอยู่กับเขาพ่วงมาด้วย