
เป็นหนังที่ตั้งชื่อไทยได้อล้าอลังมากครับ ประหนึ่งเป็นหนังว่าด้วยผู้ก่อการร้ายยึดเมืองแล้วตำรวจต้องมาปะฉะดะก่อนจะเผด็จศึกกัน แต่เอาเข้าจริงเนื้อหาไม่ได้ใหญ่เบอร์นั้นครับ
เป็นหนังที่ตั้งชื่อไทยได้อล้าอลังมากครับ ประหนึ่งเป็นหนังว่าด้วยผู้ก่อการร้ายยึดเมืองแล้วตำรวจต้องมาปะฉะดะก่อนจะเผด็จศึกกัน แต่เอาเข้าจริงเนื้อหาไม่ได้ใหญ่เบอร์นั้นครับ
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ในหัวผมจะมีคำๆ หนึ่งผุดขึ้นมาอยู่เป็นระยะๆ นั่นคือคำว่า “ผมเข้าใจนะ ผมเข้าใจ”
ผมนั้นโปรดปรานรายการแนวตามล่าหาความจริงมานานครับ ประเภทล่าปริศนาลึกลับทั้งคดีฆาตกรรมหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ซึ่งผมว่ารายการเหล่านี้มีเสน่ห์นะ เพราะมันจะมาพร้อมปมที่ชวนติดตาม คำถามชวนสงสัย แล้วบางตอนก็ทำให้เรารู้สึกหลอนได้อย่างชะงัดนัก ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้นำเสนอล่ะครับว่าจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้น่าติดตามแค่ไหน
ภาคแรกทำเงินไปเกินความคาดหมายของผู้สร้าง ดังนั้นการสร้างภาคต่อก็เป็นของแน่นอนล่ะครับ
การขับเคี่ยวระหว่าง Marvel กับ DC ดำเนินไปในทุกสนามครับ ไม่ว่าจะโรงใหญ่, จอเล็ก หรือแม้แต่การ์ตูนก็ยังนำเสนอออกมาในหลากรูปแบบเพื่อครองใจผู้ชมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นิยามได้เลยครับว่าหนังเรื่องนี้ออกแนว “สยอง หลอน เมา” ซึ่งจริงๆ เข้าทางผมนะ แต่ขณะเดียวกันก็เผื่อใจเอาไว้นิดๆ ว่าพอดูแล้วอาจจะไม่ถึงกับชอบมากอย่างที่คาดก็ได้ (ว่าง่ายๆ คือลดความคาดหวังก่อนดูนั่นแหละครับ)
หนังไซไฟสยองขวัญสัญชาติเยอรมันครับ โดยเนื้อเรื่องนั้นดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันนี้ของ H.P. Lovecraft ครับ
ถือเป็นผลงานอีกเรื่องของ Nicolas Cage ที่อาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่าผลงานอื่นๆ ในอดีต แต่ก็ถือว่าพี่เขาได้แสดงฝีมือในระดับที่น่าพอใจครับ
ดูแล้วนึกถึง Dawn of the Dead ครับ ตัวละครตื่นมาก็เจอเรื่องสยองแบบคาดไม่ถึง ก่อนที่อะไรต่อมิอะไรจะถาโถมเข้ามาจนตั้งตัวไม่ทัน รู้ตัวอีกทีซอมบี้ก็เพ่นพ่านไปทั่ว ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็ต้องหาทางรอดต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
เรื่องนี้ถือเป็นผลงานที่ทำให้เฉินหลงเป็นที่รู้จักแบบเต็มๆ ในอเมริกาครับ (ก่อนหน้านี้เฮียเขาก็มีผลงานที่พยายามบุกไปอเมริกาอย่าง Battle Creek Brawl และ The Protector แต่ก็ยังไม่ปัง)