แจ็ค โรบิโดซ์ (Jean-Claude Van Damme) ตำรวจแผนกฆาตกรรมจากนิวออร์ลีนส์ที่ย้ายมาเป็นตำรวจตระเวนชายแดนเมืองโคลัมบัส และที่นั่นกำลังมีสงครามระหว่างแก๊งค์ครับ มีเจ้าพ่อที่หวังรวบอำนาจอย่างเบนจามิน เมเยอร์ส (Stephen Lord) แจ็คเลยต้องลงสนามไปโซ้ยกับมัน
แจ็ค โรบิโดซ์ (Jean-Claude Van Damme) ตำรวจแผนกฆาตกรรมจากนิวออร์ลีนส์ที่ย้ายมาเป็นตำรวจตระเวนชายแดนเมืองโคลัมบัส และที่นั่นกำลังมีสงครามระหว่างแก๊งค์ครับ มีเจ้าพ่อที่หวังรวบอำนาจอย่างเบนจามิน เมเยอร์ส (Stephen Lord) แจ็คเลยต้องลงสนามไปโซ้ยกับมัน
ในสมัยราชวงศซ่ง แคว้นเซี่ยตะวันตกรุกรานบ้านเมือง ขุนศึกตระกูลหยางได้ออกรบต่อต้านทัพข้าศึกอย่างสุดกำลัง แต่แล้วแม่ทัพหยางจงเป่า (จงหัว, Tsung Hua) ก็ต้องพลีชีพกลางสนามรบ เจียวถิงกุ้ย (ฟ่านเหมยเซิง, Fan Mei Sheng) จึงรีบรุดมาแจ้งข่าวร้ายที่จวนเทียนปอ ส่งผลให้การฉลองวันเกิดของหยางจงเป่าต้องกลายเป็นวันแห่งความเศร้า
อีกหนึ่งรายการแนวประวัติศาสตร์ลึกลับของช่อง History Channel ครับ โดยได้ Dennis Quaid มาเป็นผู้ดำเนินรายการ
ผมเพิ่งมาตระหนักในระยะหลังๆ ว่าหนังอีกแนวที่ผมชอบก็คือแนวที่ตัวเอกต้องมาหนีตาย หนีให้พ้นจากการตามล่าจากคนด้วยกันแบบ Nick of Time หรือ Cellular หรืออะไรประมาณนี้ (ส่วนประเภทที่หนีตัวประหลาดนั่นผมจัดเป็นแนวสัตว์โลกน่ารักครับ ซึ่งก็จะมีรายละเอียดบางอย่างต่างไปหน่อยนึง)
ในยุคสมัยราชวงศ์หมิง องค์ชายหงจางหนานและขันทีเป่ยคิดการณ์ใหญ่ หมายขยายขอบข่ายอำนาจของตน จึงได้ส่งคนจำนวนหนึ่งปลอมตนเป็นหลวงจีนคอยก่อความไม่สงบโดยมีผู้นำคือ ผิงเซินหมิงคง (Ti Tang) เจ้าอาวาสวัดเจาชิง
หน้าหนังดูเป็นเกรดรอง แต่เนื้อในนับว่าใช้ได้เลยครับ ใครชอบหนังแนวดราม่าทริลเลอร์ก็น่าจะโออยู่
เรื่องเกิดในยุค 30 ครับ เรย์ฟอร์ด กิ๊บสัน (Eddie Murphy) และ คล้อด แบงค์ส (Martin Lawrence) มีเหตุให้ได้มาเจอกันและตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม (ที่พวกเขาไม่ได้ก่อ) จนต้องมาติดคุกแบบยาวๆ ร่วมกันหลายสิบปี
ดูจากชื่อฝรั่งตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังแนวผจญภัยตามหาสมบัติ ครั้นพอดูจริงๆ ก็พบว่าไม่ใช่แบบนั้นครับ ก็คือเป็นหนังพะบู๊ตีกันสไตล์ Shaw Brothers นั่นแหละ
ผมดูหนังเรื่องนี้แบบปราศจากความคาดหวังใดๆ ครับ อันที่จริงคือแอบมองหนังในแง่ลบด้วยซ้ำเพราะคะแนนนิยมของหนังเรื่องนี้ต่ำมาก ที่ IMDB คะแนนอยู่ประมาณ 4.9/10 ส่วนที่มะเขือเน่านี่นักวิจารณ์ให้แค่ 27% ยิ่งคนดูทั่วไปยิ่งแล้วใหญ่ครับ ให้แค่ 15% เท่านั้น
เรื่องนี้ทำท่าว่าจะน่าสนใจอยู่ เพราะ Netflix ฉายไปสักพักแล้วย้อนกลับมาใส่พากย์ไทยนี่แสดงว่าหนังต้องมีของครับ พอดูแล้วก็พบว่าใช้ได้เลย