สำนวนภาษาอังกฤษที่ผมชอบมากอันหนึ่งคือ put oneself in someone’s shoes แปลตามศัพท์คือ “ใครบางคนลองไปใส่รองเท้าของอีกคน” ซึ่งความหมายก็ประมาณว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา หรือลองไปยืนในมุม/จุดที่คนอื่นเขาอยู่ดู
สำนวนภาษาอังกฤษที่ผมชอบมากอันหนึ่งคือ put oneself in someone’s shoes แปลตามศัพท์คือ “ใครบางคนลองไปใส่รองเท้าของอีกคน” ซึ่งความหมายก็ประมาณว่า เอาใจเขามาใส่ใจเรา หรือลองไปยืนในมุม/จุดที่คนอื่นเขาอยู่ดู
หนังไม่ดัง คำวิจารณ์ไม่เด่น และรายได้ก็ทำไปแค่ 8,265 เหรียญเท่านั้น (นี่รายได้จริงๆ นะครับ ไม่ได้ล้อเล่น) แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้จะโดนใจเราหรือไม่
ก่อนผมดูหนังเรื่องนี้ ผมจัดการเอา “407 เที่ยวบินผี” ของบ้านเรามาเปิดดูก่อนครับ ดูแบบเรียงลำดับตามปีที่ฉาย เรื่อง 407 มาก่อน (ฉายปี 2012) ส่วนเรื่องนี้มาทีหลังครับ แต่พล็อตมีความคล้ายกัน คือว่าด้วยความสยองบนเที่ยวบินหนึ่ง
ผลงานระทึกขวัญผสมแอ็กชัน โดยผู้กำกับ Adam Wingard และมือเขียนบท Simon Barrett ที่กอดคอกันดังจาก You’re Next ครับ
บอกตรงๆ ว่าดูจากชื่อชั้นดาราแล้ว มันดึงดูดให้คนรุ่นผมเอามาดูจริงๆ นะ แม้จะรู้อยู่เลาๆ ว่ามันมีแนวโน้มจะเป็นหนังเกรดบีที่ไม่มีอะไรให้จดจำก็เถอะ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา อเมริกาก็พัฒนาโดรนสำหรับสงครามมากขึ้นครับ ใช้ค้นหาและทำลายเหล่าผู้ก่อการร้ายแบบฉับพลัน โดยไม่ต้องยกกำลังทหารไปจู่โจมโดยตรง
จำได้ว่าก่อนดูหนังเรื่องนี้ เพื่อนผมบอกว่ามันตั้งชื่อไทยให้หนังเรื่องนี้ว่า “คริสตี้บ้านพ่องสิ” แน่นอนว่าผมก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนผมหมายความว่าอย่างไร ครั้นพอได้ดูหนังแล้วก็ถึงกระจ่างครับ และออกจะเห็นด้วยกับชื่อที่มันตั้งเหมือนกัน (5555)
เหตุผลประการสำคัญที่ผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูก็ด้วยชื่อของ Danny Glover ดารารุ่นเก๋าที่ผมโปรดปรานจากบทจ่าเมอร์ทัฟในหนัง Lethal Weapon
หนังสยองขวัญปนเรื่องลึกลับที่ดูน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อมีชื่อของ Scott Speedman (Underworld), Julia Stiles (Jason Bourne 3 ภาคแรก) และ Stephen Rea (V for Vendetta) มานำแสดง
เอาแผ่นมาดองไว้นานมาก ว่าจะดูแต่ก็ไม่ได้ดูสักที จนช่วงนี้อยากหาหนังภัยพิบัติมาดูบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ เลยจัดแจงเอาแผ่นมาปัดฝุ่นดูในที่สุด