พอล แม็กไกวร์ (Nicolas Cage) นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จต้องมาเจอเรื่องร้าย เมื่อลูกสาวถูกลักพาตัวไป เขาเลยต้องค้นหาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลัง และเมื่อสืบค้นมากเท่าไร เขาก็พบว่ามันอาจพัวพันกับเรื่องในอดีตที่เขาเคยทำไว้ก็ได้
พอล แม็กไกวร์ (Nicolas Cage) นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จต้องมาเจอเรื่องร้าย เมื่อลูกสาวถูกลักพาตัวไป เขาเลยต้องค้นหาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลัง และเมื่อสืบค้นมากเท่าไร เขาก็พบว่ามันอาจพัวพันกับเรื่องในอดีตที่เขาเคยทำไว้ก็ได้
Lost River เป็นหนังแนวๆ ที่ผสมพล็อตดราม่าเข้ากับความหลอน ซึ่งพล็อตจริงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ มันคือเรื่องของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูกชาย 2 คน ที่พยายามดำรงชีวิตให้ได้ ในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้
แว่บแรกที่เห็นตัวอย่าง Winter’s Tale ผมว่ามันน่าสนใจมากนะครับ อย่างแรกคือรวมดารามีฝีมือไว้พอสมควร อย่างที่ 2 คือโทนหนังดูแฟนตาซีผสมโรแมนติก จนน่าจะสร้างอารมณ์ประทับใจได้เลย (หากปรุงดีๆ)
Autómata เป็นหนังไซไฟโลกอนาคตครับ พล็อตชวนให้นึกถึงหนังอย่าง I, Robot แต่มันจะไม่อลังการแบบนั้นครับ
Comet เป็นหนังรักโรแมนติกที่เจ๋งดีครับ คือหลักๆ แล้วมันเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เดล (Justin Long) กับ คิมเบอร์ลี่ (Emmy Rossum) ในแต่ละโลกคู่ขนานครับ…
ผมมีความสุขกับการดู Laggies มากกว่าที่คิดครับ สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้สนใจมากมาย ครั้นพอดูแล้วก็รู้สึกเพลินกับหนังมากพอสมควรเลยล่ะ
เชื่อไหมครับถ้าผมจะบอกว่า ผมชอบ Sharknado 2: The Second One มากกว่าภาคแรกซะอีก
Endless Love เคยทำออกมาเป็นภาพยนตร์แล้วหนึ่งหนเมื่อปี 1981 นำแสดงโดย Brooke Shields ครับ ซึ่งสำหรับผมแล้วรู้สึกถูกใจเสน่ห์แสนสะพรั่งของ Shields และซาวน์แทร็คสุดไพเราะชื่อเดียวกับหนังที่ร้องโดย Diana Ross และ Lionel Richie ในขณะที่ตัวหนังไม่ถึงกับประทับใจอะไรนัก
จุดที่ถือว่าเข้าท่าของ The Legend of Hercules คือภาพสวยๆ คมๆ ตามด้วยฉากการต่อสู้ย้อนยุค อารมณ์ประมาณ Immortals น่ะครับ (ยังไม่โดดเด่นถึงขั้น 300)
เท่าที่นึกออกปีที่แล้วมี Hercules ออกมา 3 ฉบับ เริ่มจากฉบับ The Legend of Hercules ของ Renny Harlin ที่พยายามจะเดินตามรอย 300 แต่เหมือนแค่สไตล์ภาพครับ ในแง่รสชาติถือว่าธรรมดา