National Treasure: Book of Secrets ถือเป็นภาคต่อที่อร่อยคล่องคอไม่แพ้ภาคแรก
National Treasure: Book of Secrets ถือเป็นภาคต่อที่อร่อยคล่องคอไม่แพ้ภาคแรก
มาดูหนังเบาๆ ที่คลายเครียดได้แหงแซะกันดีกว่านะครับ แนวคิดก็เข้าท่าไม่เลวเอาเรื่องปิงปองมาสานต่อเป็นเรื่อง
Into the Wild สร้างจากชีวิตจริงของ คริสโตเฟอร์ แม็คแคนเดลเลส (Christopher McCandless) หนุ่มวัย 20 ต้นๆ ที่เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเอมอรี่ แล้วตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขาลำเนาไพร ใจกลางธรรมชาติแถบอลาสก้า
ไม่ว่าลุง Anthony Hopkins จะเล่นเป็นคนชื่ออะไรใน Fracture แต่สำหรับผม นี่มัน “ดร.เลคเตอร์วางแผนฆ่าเมีย” ชัดๆ!
มาครับ ช่วงนี้มีโรคแวะมาทักทายผมบ่อยจริงๆ ซึ่งผมหายนานแล้วล่ะครับ แต่ก็ต้องไปทำงานประจำต่ออีกหนึ่งชุดเลยห่างจากการเขียนไปนานมากๆ เอาล่ะครับ ผมก็มีโอกาสเลยอยากเขียนถึงหนังสักหน่อย เอาเรื่องที่เขียนง่ายๆ ก่อนแล้วกันนะครับ กับเรื่องนี้ค้างคาวสยองภาคสอง
แว่บแรกที่ผมเห็นตัวอย่างหนังความรู้สึกประเภท “มาอีกแล้วพี่น้องแปง” ก็ผุดขึ้นมาอย่างเร็ว
นี่ก็เป็นหนังย้อนยุคกึ่งอิงประวัติศาสตร์หน่อยๆ นะครับ ย้อนไปอดีตสมัยที่แผ่นดินอเมริกันยังไม่ถูกค้นพบ ชนพื้นเมืองอเมริกันก็ต้องเผชิญกับพวกไวกิ้งจอมโหดร้ายที่เข้ามาเพื่อยึดครองพื้นที่ จับคนไปเป็นทาส
จากการ์ตูนแนวสยองขวัญ มาสู่หนังสยองแนวที่คุ้นเคยแต่ไม่ค่อยมีคนสร้างกันเท่าไรนัก
Transformers ถือเป็นหนังที่เติมเต็มความฝันวัยเด็กได้ดีเรื่องหนึ่งครับ เพราะเชื่อว่าเด็ก (โดยเฉพาะผู้ชาย) โดยมากอยากเห็นภาพหุ่นที่อัดกันในการ์ตูนหรือในขบวนการเรนเจอร์ทั้งหลายมาอัดกันแบบมันส์ๆ ในจอใหญ่ให้มันเต็มตาเต็มอารมณ์กันไป
จาก James Wan และ Leigh Whannell คู่หูผู้สร้างหนังสยองขวัญเรื่องดังแห่งยุคอย่าง Saw นะครับ หลังจาก Saw ดังพวกพี่แกก็นั่งแท่นอำนวยการสร้างภาคต่อไปเรื่อยๆ ส่วนฝีมือการกำกับของแกนั้น สงวนไว้ให้โปรเจคท์นี้ครับ ประมาณว่า Wan ถือว่าทำ Saw ภาคแรกจบก็พอแล้ว ไปทำอย่างอื่นต่อดีกว่า แล้วผลที่ได้ก็คือหนังเรื่องนี้ครับ