Mr. Boogedy (1986) คือหนังความยาว 45 นาทีที่ค่าย Walt Disney ทำออกมาฉายทางโทรทัศน์ในรายการ “โลกสุขสันต์ของดิสนี่ย์” นะครับ ซึ่งตัวหนังก็ทำออกมาได้สนุก น่าติดตาม ดูได้ทุกคนในครอบครัว (แม้จะมีความน่ากลัวบ้างนิดๆ ก็ตาม)
Mr. Boogedy (1986) คือหนังความยาว 45 นาทีที่ค่าย Walt Disney ทำออกมาฉายทางโทรทัศน์ในรายการ “โลกสุขสันต์ของดิสนี่ย์” นะครับ ซึ่งตัวหนังก็ทำออกมาได้สนุก น่าติดตาม ดูได้ทุกคนในครอบครัว (แม้จะมีความน่ากลัวบ้างนิดๆ ก็ตาม)
แวะเวียนมารู้จักหนังเก่ากันอีกสักเรื่องนะครับ ผมไม่ได้เขียนถึงหนังเก่าที่ผมไล่ดูสมัยที่ VDO กำลังจะสูญพันธูไปจากบ้านเรา ตอนนั้นผมกว้านซื้อหนังจากร้าน Blockbuster ในรูปแบบวีดีโอมาดูซะเพียบไปหมด เฮ่อ นึกถึงวันชื่นคืนสุขเมื่อก่อนจัง
ครอบครัวตระกูลโบว์เวอร์ ที่ประกอบไปด้วย เดวิด (Ian Patrick Williams) โรสแมรี่ (Carolyn Purdy-Gordon) ภรรยาใหม่ และจูดี้ (Carrie Lorraine) ลูกสาวเกิดรถเสียระหว่างการเดินทางครับ พอดีว่ารถมาตายตรงแถวคฤหาสน์หลังหนึ่ง พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปขอความช่วยเหลือ ก็พบกับตายายสองคน (Guy Rolfe และ Hilary Mason) ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านคอยทำการต้อนรับ
ภาคปิดท้ายไตรภาคที่ยังคงกำกับโดย Larry Cohen เจ้าเก่า คราวนี้ถ้าจะว่าไปแล้ว หนังมีเนื้อเรื่องที่น่าสนขึ้นนะครับ
คราวนี้ลุง Steve Martin รับบทเป็น ซี.ดี เบลล์ หัวหน้านักดับเพลิงที่มีจมูกโตแบบสุดๆ และเขาก็แอบชอบร็อกซานน์ (Daryl Hannah) สาวสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมือง แต่ร็อกซานน์เธอกลับไปชอบ คริส (Rick Rossovich) หนุ่มหล่อล่ำซะนี่ ซี.ดี.เลยยอมเป็นผู้ช่วยคริส ในการพิชิตใจร็อกซานน์ ก็เพื่อให้เธอได้สมหวังในความรักนั่นเองน่ะครับ
สำหรับภาคนี้ เฟรดดี้ ครูเกอร์ (Robert Englund) ได้มาก่อกวนการนอนของเด็กวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งในสถานบำบัดทางจิต ซึ่งวัยรุ่นที่ว่าก็มี คริสเตน พาร์คเกอร์ (Patricia Arquette), โรแลน คินเคด (Ken Sagoes), ไทแรน ไวท์ (Jennifer Rubin) แล้วก็โจอี้ (Rodney Eastman) พวกเขาต้องมาเผชิญกับการรังควานของจอมปีศาจนิ้วเขมือบ
เป็นตอนต่อแบบไม่เป็นทางการของหนังชุด Psycho นะครับ ว่าด้วยเรื่องหลังจากนอร์แมน เบตส์เสียชีวิต แล้วก็ทำพินัยกรรมยก เบตส์ โมเต็ลให้กับ อเล็กซ์ เวสต์ (Bud Cort) คนที่ได้เป็นเพื่อนกับนอร์แมนในช่วงที่เขาอยู่ในสถานบำบัดทางจิต ทีนี้อเล็กซ์ก็ตั้งใจจะกลับไปปรับปรุงโมเต็ลใหม่ครับ เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาใช้การได้
กล่ำกลืนฝืนทนครับ เพราะบอกตามตรง สำหรับผมหนังมันไม่ได้สยองพองขนอะไรเลย แต่โดยแนวแล้วผมก็ต้องจัดมาเป็นอันนี้ เพราะคงมีน่ะครับคนที่รู้สึกว่าหนังน่ากลัว หรืออย่างน้อยทีมงานก็สร้างมันออกมาในแนวน่ากลัวแบบตลกแทรก
ภาคนี้เป็นตอนสุดท้ายที่ Steve Guttenberg รับบท มาโฮนี่ย์ครับ เพราะเขาขอเลิกเล่นแล้วนั่นเองครับ ประมาณว่าอิ่มตัวแล้วมั้งครับ และจะว่าไปแล้ว หนังภาคนี้ก็ถือเป็นตอนสุดท้ายแล้วล่ะครับ ที่หนังออกมาสนุกจริงๆ น่ะ
เฮ่อ จริงๆ นี่มันก็เป็นหนังตลกนั่นแหละ นำแสดงโดย Dustin Hoffman และ Warren Beatty สองดาราดังในยุคนั้นนะครับ ซึ่งตอนนั้นเขาได้ค่าตัวไปคนละ 5 ล้านเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ส่วนตัวหนังเองก็ลงทุนไปราวๆ 55 ล้าน