ถ้าใครหมายมั่นว่าหนังเรื่องนี้จะออกแนวชีวิตว่าด้วยประวัติของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Alfred Hitchcock แล้วก็ดูด้วยความต้องการอยากรู้จัก Hitchcock อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจไม่รู้สึกสมหวังนักครับ หลังจากหนังเรื่องนี้จบ
ถ้าใครหมายมั่นว่าหนังเรื่องนี้จะออกแนวชีวิตว่าด้วยประวัติของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Alfred Hitchcock แล้วก็ดูด้วยความต้องการอยากรู้จัก Hitchcock อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ก็อาจไม่รู้สึกสมหวังนักครับ หลังจากหนังเรื่องนี้จบ
เป็นภาคต่อที่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องเกี่ยวอะไรกับภาคแรก แต่เหมือนจะเป็นการรีเมคภาคแรกให้ตรงกับนิยายมากขึ้นน่ะครับ เพราะฉบับนิยายจะมีพูดถึงเรื่องมนต์ดำอะไรด้วย แต่ภาคแรกไม่ได้กล่าวถึงเลย
จิม นอร์แมน (Tim Matheson) ครูหนุ่มที่ตัดสินใจกลับมาเป็นครูในเมืองบ้านเกิด ซึ่งใจจริงเขาก็ไม่อยากจะมาหรอกครับ เพราะที่แห่งนี้เขาเคยมีอดีตที่แสนเลวร้าย นั่นคือเห็นพี่ชายถูกฆ่าต่อหน้าโดยแก๊งอันธพาลประจำเมือง และในเวลาต่อมาเจ้าพวกนั้นก็ประสบอุบัติเหตุตายไปเช่นกัน
กำกับโดย Mikael Salomon (Hard Rain) จากนิยายสุดดังของ Stephen King นะครับ ซึ่งเคยทำเป็นมินิซีรี่ส์มาแล้วรอบหนึ่งเมื่อปี 1979 ตอนนั้นกำกับโดย Tobe Hooper
ผมรู้สึกดีที่ระยะหลังๆ มีหนังสไตล์ How to สอนคนให้รู้จักใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ อย่าง Yes Man ก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งการดูหนังพวกนี้เมื่อมาผสมกับการคิดเพิ่มรอยหยักในสมองสักนิดก็จะทำให้เราเห็นแนวทางการใช้ชีวิตที่เหมาะควร รู้ทันใจตนและเข้าใจโลกมากขึ้น อะไรแบบนี้แหละครับถึงจะเรียกว่าคืนกำไรตอบแทนคนดู
ผมทำใจล่วงหน้าก่อนเข้าโรงแล้วว่าหนังของพี่ Jim Carrey เรื่องนี้คงไม่ฮาแตกเท่าสมัยเล่น Dumb and Dumber, Liar Liar หรือ Bruce Almighty พอดูจบก็พบคำตอบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ แหละครับ หนังขำบ้างแต่ก็ไม่มาก จึงขอสาธยายแจ้งไว้ในย่อหน้าแรกเลยนะครับว่าอย่าดูโดยคาดหวังความขำ
อะฮ้า อย่าคิดว่าฮอลลีวู้ดเขาเพิ่งมาบ้ารีเมกกันตอนหลังๆ นะครับ เพราะเขาขยันรีเมกกันมานานตั้งแต่หนังเพิ่งเกิดใหม่ๆ แล้ว
มาอีกครั้งก็ขนเอาหนังเก่ามารีวิวเลยนะครับ รับชมจาก Youtube ตามเคย แต่บอกก่อนว่าเวอร์ชั่นที่ผมชมนี้ ไม่ใช่เวอร์ชั่นหนังเต็ม เพราะ London After Midnight ได้ชื่อว่าเป็นหนังเงียบเรื่องเยี่ยมที่หายสาปสูญไปเรียบร้อย เนื่องจากต้นฉบับชุดสุดท้ายที่ถูกเก็บไว้ที่ MGM โดนไฟเผามอดไหม้ไปเมื่อปี 1965 และที่น่าเสียดายยิ่งขึ้นคือมีนักสะสมฟิล์มหนังเก่าชาวแคนาดาท่านหนึ่ง ว่ากันว่ามีฟิล์มหนังเรื่องนี้เก็บไว้ แต่นักสะสมท่านนี้ก็ไม่ยอมนำออกมาสู่สาธารณะ นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่ามีคนเจอฟิล์มหนังเรื่องนี้หลุดรอดมาตามร้านขายของเก่า แต่ก็ไม่มีใครยืนยันข่าวนี้ได้ว่าจริงหรือไม่อย่างไร
ยอมรับว่าตอนหนังออกฉายที่อเมริกาเล่นเอาผมอึ้ง เพราะหนังไต่อันดับขึ้นที่ 1 Box Office ประจำสัปดาห์ได้ ก็คาดไม่ถึงครับว่าด้วยฟอร์มหนังมันจะไต่กระไดไปถึงนั้นได้ แม้จะกำกับโดยลุง John Carpenter คนทำหนังสยองที่ดังจาก Halloween, The Fog และ The Thing แต่ลุงท่านก็อยู่ในช่วงขาลงมาตั้งนานแล้ว เห็นได้ขึ้นอันดับแบบนี้ก็อดดีใจด้วยไม่ได้ แม้จะเปิดตัวแค่ 9 ล้านก็เถอะ (ประมาณว่าช่วงนั้นมันฮาโลวีนครับ ไม่มีหนังสยองอะไรเข้าท่าเรื่องนี้เลยเข้าวิน)
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบหนัง American Pie มากๆ ครับ