หลายปีที่ผ่านมา ผมเจอหนังอินเดียขโมยหัวใจไปหลายเรื่องเลยครับ และ The Lunchbox ก็เป็นหนึ่งในนั้น ^_^
หลายปีที่ผ่านมา ผมเจอหนังอินเดียขโมยหัวใจไปหลายเรื่องเลยครับ และ The Lunchbox ก็เป็นหนึ่งในนั้น ^_^
ภาคแรกผมชอบครับ มันคือ Die Hard เวอร์ชั่นฮากลมกลิ้งที่ครบเครื่องทั้งความตลกและความลุ้น ส่วนภาคต่ออย่าง Paul Blart: Mall Cop 2 ก็ถือว่าผลออกมาตามที่คาดไว้ นั่นคือดูเพลินเรื่อยๆ แต่ไม่จับใจเท่าภาคแรก
Annie ฉบับล่าสุดอาจไม่ใช่หนังที่ลงตัวเต็มร้อย แต่ถ้าจะดูเอาสนุกเพลิดเพลิน พร้อมรับสาระชีวิตดีๆ ติดปลายนวมกลับไปคิดเป็นการบ้าน ก็ถือว่าหนังตอบโจทย์อะไรเหล่านี้ได้ดีพอสมควรครับ
วิ่งสู้ฟัด 2013 อาจไม่ใช่หนังแอ็กชันมันส์สะใจตามสไตล์เก่าๆ ของเฮียเฉินหลง แต่ผมก็นับถือในความพยายามครับ เพราะพล็อตเรื่องและการนำเสนอนี่ถือว่ามีอะไรน่าสนใจพอสมควร
Blind Detective เป็นหนังสืบสวนที่ดูเพลินๆ ได้ไม่เลวครับ ได้เฮียหลิวเต๋อหัวมารับบทนักสืบตาบอดที่ใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆ ในการตามสืบร่องรอย
โปสเตอร์ของ Tomb Robber หรือ ล่าขุมทรัพย์ หุบผาทมิฬ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้ดูหนังผจญภัยเข้า “ถ้ำ” ไปหาสมบัติ (เพราะภาพในโปสเตอร์มันคือ “ถ้ำ” ชัดๆ นี่หน่า)
หนังหลายๆ เรื่องเราดูด้วยเหตุผลว่า อยากดูหนังดี เติมเต็มชีวิต แต่กับหนังบางเรื่องแล้ว เราดูเพื่อความสนุกครับ ยิ่งหน้าหนังประกาศมาแต่ไกลว่าทำออกมาเพื่อความบันเทิงล่ะก็ ความคาดหวังในใจเราก็จะแปรเปลี่ยนไปตามหน้าหนังนั้นๆ
ออกตัวก่อนครับว่าผมเป็นคนชอบหนังไซไฟและหนังสไตล์ The Twilight Zone ที่เต็มไปด้วยปริศนา เรื่องลึกลับไร้คำอธิบาย หรือเหตุการณ์แปลกๆ ที่ชวนให้งง
ภรรยาผมพูดขึ้นหลังดูหนังเรื่องนี้จบว่า “เราไม่มีโอกาสที่จะทำให้วันไหนดีขึ้นได้ นอกจากวันนี้… ว่าอย่างนั้นมั้ย?” แล้วผมก็พยักหน้าตอบรับครับ ^_^ (บอกก่อนครับ บทความนี้ยาว เพราะหนังมันถูกจริตมากมาย)
เชื่อไหมครับว่าผมเพิ่งดู Slumdog Millionaire จบเมื่อวานนี้เอง