ผมดู 80 for Brady ตอนเช้าวันจันทร์ระหว่างออกกำลังกายครับ และถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ เพราะหนังมีความเป็น Feel Good ให้แรงบันดาลใจ ส่งให้ผมได้รับพลังบวกในวันแรกของสัปดาห์แบบเต็มๆ เลยครับ
ผมดู 80 for Brady ตอนเช้าวันจันทร์ระหว่างออกกำลังกายครับ และถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ถูกต้องมากๆ เพราะหนังมีความเป็น Feel Good ให้แรงบันดาลใจ ส่งให้ผมได้รับพลังบวกในวันแรกของสัปดาห์แบบเต็มๆ เลยครับ
ว่าตามจริงโครงเรื่องของ ตี๋เหรินเจี๋ยไขคดีศีรษะรากษส ถือว่าเข้าท่าไม่น้อย
อารมณ์ตอนดู Finding Dory นี่เหมือนกับดู The Dark Knight หรือ Star Trek เลยครับ คือมันเดินเรื่องแบบห้อตะบึงควบไปข้างหน้าชนิดที่แทบจะไม่มีนาทีให้หยุดหายใจกันเลย
ถ้าคุณเป็นคอการ์ตูนญี่ปุ่นแนวอบอุ่น+กินบรรยากาศ, เป็นสาวก Makoto Shinkai หรือเป็นคนรัก Ghibli ล่ะก็ เรื่องนี้สามารถตรงดิ่งไปดูได้เลยครับ ไม่ต้องรออ่านสิ่งที่ผมจะเขียนด้านล่างนี่แล้ว 😊
หลังดูเรื่องนี้จบผมบังเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมผมถึงรู้สึกรักหนังเรื่องนี้เหลือเกิน ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้วพล็อตก็ไม่ได้ใหม่อะไรขนาดนั้นน่ะครับ คือมันรู้สึกเลยว่าพล็อตแบบที่เกิดในหนัง มีหลายเรื่อง หลายชาติ และหลายภาษาเคยเล่นกันมาแล้ว
การผจญภัยภาคที่ 3 ของแม็กซ์ ดอยล์ หนุ่มน้อยกล้าหาญผู้เห็นผีได้ครับ หนังสร้างจากผลงานของ R.L. Stine เจ้าพ่อหนังสือสยองขวัญสำหรับเด็ก (ที่ว่ากันว่าเขาสามารถทำเงินได้มากกว่า Stephen King ซะอีก)
ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามผมว่า หนัง Spirited Away สื่อถึงอะไร และผมมองว่าสัญลักษณ์ต่างๆ มันมีนัยว่ายังไงบ้าง
The Electrical Life of Louis Wain นี่ดูแล้วได้กลิ่นอายคล้ายหนังของ Wes Anderson ครับ โทนเรื่องและการเล่าถือว่ามาทางเดียวกัน แต่ผู้กำกับ Will Sharpe ก็สามารถปรุงรสให้หนังมีสไตล์ในแบบของตัวเองอยู่พอตัว
การที่เราเอาหนังที่เคยดูแล้วมาดูซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะยังไม่แน่ใจว่าเราชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่ (ประมาณว่าดูรอบเดียวยังไม่รู้ เลยต้องซ้ำ) ก็จะเอามาดูเพราะเรื่องนั้นถูกจิตโดนใจเลยจัดไปเกินหนึ่งรอบ
การ์ตูนชุดของสนูปี้และชาร์ลี บราวน์ นั้นถือเป็นการ์ตูนประเภท Feel Good ที่อมตะมากๆ เรื่องหนึ่งครับ