แม้นี่จะเป็นหนังแอ็กชันผสมฮา แต่ยอมรับว่าดูแล้วไม่ถึงกับโดนสักเท่าไร ส่วนหนึ่งคงเพราะสไตล์ของหนังมันไม่ได้เป็นแบบ Rush Hour หรือ Ride Along แต่มันไปมีส่วนผสมของหนังอย่าง Borat และ Bruno ซะเยอะเชียว
แม้นี่จะเป็นหนังแอ็กชันผสมฮา แต่ยอมรับว่าดูแล้วไม่ถึงกับโดนสักเท่าไร ส่วนหนึ่งคงเพราะสไตล์ของหนังมันไม่ได้เป็นแบบ Rush Hour หรือ Ride Along แต่มันไปมีส่วนผสมของหนังอย่าง Borat และ Bruno ซะเยอะเชียว
จริงๆ หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ เพียงแต่ความสดใหม่อาจไม่ถึงกับมากมาย ส่วนหนึ่งก็เพราะหนังมาหลัง The Martian ที่ว่าด้วยดาวอังคารเหมือนกัน และธีมเรื่องยังดูใหญ่กว่าด้วย (แม้จะคนละแนวกันก็ตาม)
อยากรู้เหมือนกันครับว่าทำไมหนังสัญชาติตุรกีเรื่องนี้ถึงได้เรตคะแนนตั้ง 7.8 ที่ IMDB (จากคนโหวตประมาณ 10,000 คนน่ะครับ) พอได้ดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่ดูเพลินดีเหมือนกัน
และนี่คือภาคต่อของ King Arthur นะครับ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะมีการทำภาคต่อออกมาเร็วขนาดนี้ 555 ที่พูดไปทั้งหมดนั้นพูดเล่นล้วนๆ ครับ นี่ไม่ได้เป็นภาคต่งภาคต่ออะไรหรอก ไม่ได้เกี่ยวกับ King Arthur ของ Guy Ritchie ทั้งสิ้น
มีหนังเมืองนอกที่มาถ่ายทำในประเทศไทยเยอะเหมือนกันนะครับ ปีนี้ที่ได้ดูก็หลายเรื่องอยู่ คิดในแง่หนึ่งก็น่าดีใจในแง่เศรษฐกิจกับรายได้ที่ไหลเข้าประเทศ แต่ถ้าพูดถึงตัวหนังแล้ว ก็คงต้องว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่งน่ะนะครับ ^_^
ดูไปก็บ่นงึมงำกับตัวเองไปว่า “สังคมตึง ผีหลอก สงครามหลอน ชีวิตคนเราหนอ ต้องเจอสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งสารพัดปัญหาล้อมหน้าหลังเป็นเรื่องธรรมดาสินะ” พอดูจบแล้วก็ได้อารมณ์แนว “ปลงๆ” เกิดขึ้นเหมือนกันครับ
อย่างทีเขาว่าครับ นี่เป็นหนังผีที่ทำเพื่อคารวะและย้อนรำลึกถึงหนังผีกัดสมัยก่อน โดยตามเอาดาราที่เล่นหนังชุด “ผีกัดอย่ากัดตอบ” กลับมาร่วมจอ ไม่ว่าจะเฉินเสี่ยวหาว (ที่เล่นเป็นลูกศิษย์ หลินเจิ้นอิง ในหนังผีกัดบ่อยๆ), เฉินโหย่ว (Anthony Chan) (อาจารย์ปราบผีสวมแว่นร่างผอมๆ), อู๋เย่าฮั่น (Richard Ng) พี่หนวดหน้าเหลี่ยมๆ ผอมๆ ที่ชอบมาเล่นเป็นคนซื่อๆ)
ว่าตามจริงพอเห็นตัวอย่างแล้วก็คิดถึงตอนจบได้เลยครับ กับพล็อตแนวทริลเลอร์ไซไฟที่ว่าห้องทดลองลึกลับห่างไกล ที่ทดลองมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ โดยตอนแรกการทดลองก็ดูจะน่าตื่นตา ก่อนที่สักพักสิ่งทดลองนั้นจะเริ่มเผยความน่ากลัวออกมา (นึกถึง Splice เลยครับ)
ดูจากหน้าหนังอาจทำให้หลายคนคาดหวังว่ามันจะเป็นแนวแอ็กชัน แต่เอาเข้าจริงหนังออกแนวทริลเลอร์เข้มข้นที่มีแอ็กชันแทรกลงมาเป็นส่วนประกอบมากกว่าครับ โดยเรื่องนี้ก็รีเมกมาจากหนังฝรั่งเศส Nuit blanche (Sleepless Night) อีกทีหนึ่ง
ถ้าหนังสร้างในช่วงปีนี้ ผมคงคิดไปว่าหนังทำออกมาแอบด่า Donald Tramp น่ะครับ เพราะเนื้อเรื่อง สถานการณ์ และอะไรต่อมิอะไรมันชวนให้คิดไปทางนั้นจริงๆ (มันเกี่ยวกับเรื่องคนต่างด้าวและเหยียดเชื้อชาติแบบเต็มๆ เลย)