ตอนดูตัวอย่างก็แอบมีความหวังน่ะนะครับ ดูท่าจะมันส์ แต่ก็แอบเผื่อใจไว้หน่อยๆ เหมือนกัน เพราะดูแนวโน้มแล้วซีรี่ส์ Marvel ขบวนนี้ความเจ๋งความฟินมันค่อยๆ น้อยลงตามลำดับน่ะครับ
ตอนดูตัวอย่างก็แอบมีความหวังน่ะนะครับ ดูท่าจะมันส์ แต่ก็แอบเผื่อใจไว้หน่อยๆ เหมือนกัน เพราะดูแนวโน้มแล้วซีรี่ส์ Marvel ขบวนนี้ความเจ๋งความฟินมันค่อยๆ น้อยลงตามลำดับน่ะครับ
ถ้าเว้ากันซื่อๆ ก็คงต้องบอกว่าสปีดในการดู Luke Cage ของผมนั้นค่อนข้างช้าถึงช้ามากเมื่อเทียบกับ DareDevil หรือ Jessica Jones ที่ผมเอามาดูต่อกันยาวๆ แบบหยุดไม่ได้ คือมันรู้สึกอยากติดตามไปจนจบน่ะครับ
ซีรี่ส์จากค่าย Marvel ที่ตามรอยความสำเร็จของ DareDevil ออกมาครับ ร่วมทำกับ Netflix แล้วก็ผลิตออกมาฉายให้ดูพร้อมกัน 13 ตอนไปเลย
Daredevil ปี 3 ออกฉายในปี 2018 แต่กว่าผมจะได้ฤกษ์เปิดดูก็ปาเข้าไปตอนปลายปี 2021 แล้วครับ
ปีแรกก็เข้มข้นจนคนพากันจดจำและชื่นชอบ มาปีนี้ความเข้มข้นก็ยังมีพอกันครับ การเดินเรื่องยังคงมั่นกับสไตล์เป็นสายแข็ง (นั่นคือไม่ได้หวือหวาหรือไม่มีสีสันเท่าซีรี่ส์ของฟาก DC)
ทันทีที่ผมได้ดูตัวอย่างซีรี่ส์นี้ผมก็รอดูเลยครับ เพราะมันน่าจะเข้าทางผมแบบเต็มๆ กับซีรี่ส์แนว Anthology หรือเรื่องสั้น แบบจบในตอน ที่มาพร้อมจินตนาการและเรื่องราวแปลกประหลาด หัวผมนี่ก็นึกไปถึง The Twilight Zone ยิ่งบอกว่าเอาเค้าโครงมาจากเรื่องของ R.L. Stine แล้วด้วย ในหัวก็นึกถึงซีรี่ส์เก่าอย่าง Goosebumps และ The Haunting Hour ขึ้นมาเลย
ในฐานะแฟนหนังชุด The Evil Dead นี่ถือเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากครับ กว่าเราจะได้รู้ชัดว่าอีตาแอชแขนเลื่อยยนต์ (Bruce Campbell) มีชะตากรรมเป็นเช่นไร หลังจากเหตุการณ์ใน Army of Darkness (ที่ยังอุตส่าห์มีตอนจบออกมา 2 แบบให้เราเลือกเล่นๆ ซะอีก 555)
ซีรี่ส์ Daredevil ปีแรก มาพร้อมความเข้มข้นครับ จริงๆ เนื้อเรื่องมาทางเดียวกับ Arrow นั่นคือผู้กล้าคนหนึ่งยืนหยัดซัดกับคนชั่วในเงามืด แต่สิ่งที่ต่างกันอย่างแรงคือ Arrow ทำออกมาเน้นบันเทิง ส่วน Daredevil จะจริงจังกว่า
รู้ไหมครับว่าตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมาเวลาที่ผมเหงามากๆ นั้น ผมทำอย่างไร? ผมเอาซีรี่ส์ Friends มาเปิดดูครับ
พี่น้อง Nolan นี่ดูจะขยันทำหนังและซีรี่ส์แนวสำรวจจิตใจคนจริงๆ ครับ ไม่ว่าพล็อตมันจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็เถอะ แต่จนแล้วจนรอดพวกพี่เขาก็จะสามารถหาเรื่อง หาแง่ หามุมมาสำรวจจิตใจคนจนได้