อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังที่ดูแล้วชอบแบบไม่ทันตั้งตัว และใช่ครับ มันคือหนังแนว “ว่าด้วยช่วงหนึ่งของชีวิตคน” นั่นเอง
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างพลังใจครับ ด้วยการเอาชีวิตของนักมวยนักเทศน์ จอร์จ โฟร์แมน มาบอกเล่า
ศาสตราจารย์ถังหยุนหลง (จ้าวเหวินจั๋ว, Vincent Zhao) กับลูกสาวที่ชื่อว่า ถังหนิง (สวีเจียว, Xu Jiao) ได้เดินทางมายังเขาบู๊ตึ๊งเพื่อร่วมงานประลองที่ 500 ปีจะมีครั้ง แต่หยุนหลงก็ยังมีเป้าหมายอื่นครับ คือมาตามหาสมบัติในตำนาน 7 ชิ้น ด้วยความหวังว่ามันจะสามารถช่วยถังหนิงให้หายจากโรคประหลาด แต่ก็แน่นอนว่ากว่าเขาจะหามันเจอ ก็ต้องพบกับอุปสรรคสารพัดตามสูตรนั่นแหละ
เรื่องนี้ถือว่าผสมๆ กันระหว่างหนังวันคริสต์มาส บวกหนังย้อนยุค แล้วก็ยังเป็นหนังชีวประวัติอีกด้วย และผลลัพธ์ที่ได้นี่ต้องนับว่าน่าพอใจทีเดียว
ถ้าท่านชอบหนังกีฬา ชอบหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ชอบหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ ชอบหนังที่เหมือนจุดไฟในตัวให้ฮึกเหิม ผมก็ขอบอกว่า “จัดเรื่องนี้สิครับ จะรออะไร”
นิโคล (Reese Witherspoon) สาวน้อยที่พบรักกับเดวิด (Mark Wahlberg) หนุ่มหล่อล่ำเสน่ห์ร้ายเหลือ แล้วความรักของพวกเขาก็เจริญงอกงามดีล่ะครับ แต่ทว่าสตีฟ (William Petersen) พ่อของนิโคลนั้นไม่ค่อยเห็นด้วยการกับคบหาครั้งนี้สักเท่าไหร่ ในขณะที่ลอร่า (Amy Brenneman) แม่ใหม่ของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผมนั้นชอบหนังแนวลงน้ำเป็นชีวิตจิตใจครับ รวมถึงชอบแนวผจญภัยไปยังดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบอะไรแบบนั้นด้วย แต่ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่าหนังแนวนี้มีไม่บ่อย แล้วที่ไม่บ่อยนี่ก็ใช่ว่าจะสนุกทุกเรื่องด้วยนะ ชนิดที่พูดได้เลยว่าหนังแนวนี้ที่ดีๆ น่ะ มีไม่เยอะจริงๆ
พอดูเรื่องนี้จบ ผมคิดในหัวดังๆ เลยว่า “ผมขอแค่นี้แหละ!”
ถือเป็นหนังเรื่องแรกๆ ครับที่ทำให้ผมรู้จักกับคำว่าทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) ซึ่งนิยามง่ายๆ ได้ว่าเป็นเหมือนข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆ ที่ยังหาข้อสรุปชี้ชัดไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ภาคการเมือง ซึ่งก็จะมีคนสังเกตสังกาจับหลักฐานพยานและข้อมูลเท่าที่จะหาได้ เอามาประมวลเข้าด้วยกันแล้วคาดกันไปว่าเรื่องนี้อาจเกิดจากแบบนี้แบบนั้น…
หนังสยองจากฟากฝั่งของเกาหลีครับ เรื่องของนักข่าวสาวฮันซูจิน (Lee Eun-ju) ที่กำลังตามข่าวจากนักสืบชอย (Jeong Jun-ho) ซึ่งคดีที่เขากำลังสืบก็คือการตายปริศนาของหญิงสาว และเพียงไม่นานนักซูจินก็ได้พบเห็นการตายของหญิงสาวอีกคนต่อหน้าต่อตาเธอ ในครั้งนี้เธอสามารถบันทึกภาพการตายมาได้ แต่หารู้ไม่ครับว่าการที่เธอทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการนำพาตัวเองเข้าสู่วงจรแห่งการตายนั่นซะแล้ว