Stranger Things Season 4 (2022) สเตรนเจอร์ ธิงส์ ปี 4

นั่งดู Stranger Things ปี 4 จบตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ลงสตรีม 2 ตอนสุดท้ายครับ ตอนแรกกะดูจบแล้วจะร่ายเลยแบบที่ทำทุกปี แต่พอดูจบปีนี้แล้วก็บังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมอยู่ในใจ จนผมตัดสินใจทิ้งความรู้สึกไว้หนึ่งคืน ให้ความคิดตกตะกอนเรียงตัวว่าตกลงแล้วผมรู้สึกอย่างไรกับซีซั่นนี้บ้าง

Man vs. Bee (2022)

สำหรับผมแล้ว การได้เห็นลุง Rowan Atkinson มาทำท่ายึกยักยึกยือพร้อมด้วยสารพัดพฤติกรรมเพี้ยน แค่นี้ก็ได้รอยยิ้ม+ความผ่อนคลายแล้วครับ

Witch Hunt (1994) มายาโลกาภิวัฒน์

แรกเริ่มเดิมที Witch Hunt จะเป็นภาคต่อของ Cast a Deadly Spell ครับ แต่ไปๆ มาๆ หนังกลายเป็นรีบูทที่ตีความเรื่องราวใหม่ ไม่ต่อเนื่องกับภาคแรก แต่ตัวเอกยังคงเป็นนักสืบเอกชนนามว่า เอช. ฟิลลิป เลิฟคราฟท์เช่นเดิม พร้อมด้วยตัวละครชื่อเดิม (แต่เปลี่ยนคนแสดง) และโลกในหนังก็ยังเป็นโลกแห่งเวทย์มนต์เช่นเคย

The Hunt (2020) จับ ล่า ฆ่าโหด

พล็อตของ The Hunt จะว่าไปก็ไม่ได้ใหม่อะไรครับ นั่นคือการจับเอาคนแปลกหน้ามาปล่อยไว้ในป่าแห่งหนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะโดนไล่ล่าฆ่าให้ตายประหนึ่งเกมกีฬาของคนจิตโหด ที่เหลือที่ต้องตามดูก็คือใครจะรอดเป็นคนสุดท้าย และตกลงใครเป็นคนจับพวกเขามาเล่นเกมโหดแบบนี้กันแน่

Old (2021) โอลด์

“เมื่อไม่คาดหวัง ก็ไม่ผิดหวัง” คำพูดนี้ใช้บอกตัวเองได้เสมอครับ และผมก็มักจะเอามาเตือนตัวเองตลอดยามจะดูผลงานของพี่มาโนช (M. Night Shyamalan) ครับ

The Man from Toronto (2022) ชายจากโตรอนโต

The Man from Toronto หนังสไตล์คู่หูคู่ต่างครับ Kevin Hart กับ Woody Harrelson มาเจอกัน รายแรกก็พล่ามไม่หยุดฉูดไม่อยู่ ส่วนรายหลังก็ออกแนวขาดโหด ซัดชาวบ้านทั่วสารทิศ

Colors of Love (2021) สีสันสื่อรักแห่งเราสอง

Colors of Love หนังโรแมนติกที่เนื้อเรื่องธรรมดา ไม่แปลกใหม่อะไร แต่สิ่งที่เตะตาผมมากๆ คือฉากหลังครับ เรื่องราวเกิดช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราเลยจะได้เห็นบรรยากาศดีๆ อบอวลไปด้วยใบไม้สีนวลตาประดับอยู่ในแทบทุกฉาก

Hitman’s Wife’s Bodyguard (2021) แสบ ซ่าส์ แบบว่าบอดี้การ์ด 2

Hitman’s Wife’s Bodyguard ถือเป็นภาคต่อภาคบังคับอีกเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นครับ หลังจากภาคแรกฮิตเกินคาด โกยทั่วโลกไป $176 ล้าน (จากทุนเพียง $30 ล้าน)