วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
ผมแบ่งหนังแฟนตาซีออกเป็น 3 แนวง่ายๆ ครับ แนวแรกคือเข้มจริงจัง มีรายละเอียด มีอาณาจักร มีสงครามรบพุ่ง – แนวที่ 2 คือเน้นแสงสี ย่อยง่าย หวือหวาผจญภัย ยิงเวทย์สู้กันมันส์ๆ และอีกแนวคือพันธุ์ผสมที่จับเอาแนวแรกมาเจอกับแนว 2 นั่นเอง
จบลงไปแล้วครับสำหรับซีรี่ส์สืบสวนผสมโรแมนติกกลั้วด้วยเสียงฮาที่ทำต่อเนื่องยาวนานมาถึง 8 ปี ซึ่งถ้าพูดถึงความสนุกแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้สนุกมากๆ ล่ะครับ จนไม่อยากให้คอซีรี่ส์แนวนี้พลาดกันเลย จัดว่าต้องดูให้ได้ครับ
ระหว่างดู The Conjuring: The Devil Made Me Do It ผมถามตัวเองว่าอะไรทำให้ผมชอบ The Conjuring 2 ภาคแรก แล้วคำตอบก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมา
เบคเกอร์ (Cole Hauser) อดีตนาวิกโยธินถูกส่งไปปานามาเพื่อเจรจาเรื่องซื้อขายอาวุธ แต่พอเขาพบเจอกับเรื่องไม่ชอบมาพากล เขาเลยต้องรับมือกับสถานการณ์ที่พลิกผัน แล้วก็หาทางเอาตัวรอดกลับมา
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ายังไง Fortress ของป๋า Bruce Willis คงไม่ได้สนุกอะไรมากมาย แต่ที่ตามมาดูก็เพื่อให้กำลังใจดาราแอคชั่นที่คุ้นเคยกันมาครับ สมัยหนุ่มๆ พี่เขาทำหนังสนุกๆ ให้เราดูไว้พอสมควร ตอนนี้ก็ตามให้กำลังใจอุดหนุนผลงานป๋าเขาสักหน่อย
The Curse of Bridge Hollow หนังครอบครัวแนวปราบปีศาจประจำเมืองครับ เรื่องของครอบครัวกอร์ดอนที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเมืองบริดจ์ฮอลโลว์ และเผอิญว่าบ้านใหม่ของพวกเขามีวัตถุที่กักปีศาจนามว่าสติงกี้แจ๊คซ่อนเอาไว้ แล้วก็ตามสูตรครับ พวกเขาดันปล่อยมันออกมา ทำให้คุณพ่อ (Marlon Wayans) และคุณลูก (Priah Ferguson) ต้องวิ่งพล่านเมืองเพื่อหาทางปราบปีศาจตนนี้ให้ได้ ก่อนจะสายเกินไป
ก่อนดู Last Seen Alive ผมนึกถึงหนัง 3 เรื่องขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กัน อันได้แก่ Spoorloos, The Vanishing (อันนี้รีเมคจาก Spoorloos อีกที) และ Breakdown แต่ละเรื่องล้วนมีเนื้อหาว่าด้วยสามีวิ่งพล่านตามหาภรรยาที่หายตัวไประหว่างเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง
สิ่งแรกที่ต้องบอกก่อนเลยก็คือ Mr. Harrigan’s Phone ไม่ใช่หนังสยองขวัญนะครับ แม้หน้าหนังจะชวนให้คิดไปแบบนั้นก็ตาม เพราะเอาเข้าจริงหนังมาในแนวชีวิตผสม Coming of age ที่มีฉากหลังเป็นหนังลึกลับระทึกขวัญ
หนังบางเรื่องยิ่งรู้รายละเอียดน้อยจะยิ่งดูสนุก และ I See You เรื่องนี้ก็อยู่ในข่ายนั้นครับ