ถือเป็นหนังแอ็กชันที่ดูเพื่อความมันส์เป็นหลักครับ พล็อตสร้างมาจากเกมกระดานสุดฮิตว่าด้วยกองทัพเอเลี่ยนเปิดสงครามกับมนุษย์โลกโดยมีทะเลเป็นสมรภูมิ และพระเอกของเราอย่างอเล็กซ์ ฮ็อปเปอร์ (Taylor Kitsch) ก็ต้องรับบบทฮีโร่ในการรับมือกับพวกมัน
ถือเป็นหนังแอ็กชันที่ดูเพื่อความมันส์เป็นหลักครับ พล็อตสร้างมาจากเกมกระดานสุดฮิตว่าด้วยกองทัพเอเลี่ยนเปิดสงครามกับมนุษย์โลกโดยมีทะเลเป็นสมรภูมิ และพระเอกของเราอย่างอเล็กซ์ ฮ็อปเปอร์ (Taylor Kitsch) ก็ต้องรับบบทฮีโร่ในการรับมือกับพวกมัน
สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมนั้นหมายมั่นจะเขียนถึงมาตั้งนานแล้วล่ะครับ แต่เผอิญหาภาพโปสเตอร์ไม่เจอเลย จึงดองแล้วดองเล่า ปรากฏว่าวันก่อนไปเจอโดยบังเอิญครับ เลยเขียนลงบล็อกประเดิมซะเลย แม้ตัวหนังอาจไม่ได้น่าดูอะไรนักก็เถอะ
ลองว่ามี Stephen King’s จั่วหัวข้างหน้าก็มั่นใจได้ว่าหนังสร้างจากปลายปากกาของพี่ King แน่นอน
สำหรับ The Thing ฉบับนี้ถือเป็นภาคก่อนหน้าของเหตุการณ์ใน The Thing ปี 1982 ของลุง John Carpenter อันที่จริงตอนแรกก็มีการคิดๆ กันครับว่าจะรีเมคจากฉบับปี 1982 เลยดีไหม แต่ทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันในที่สุดครับว่าฉบับปี 1982 มันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ดังนั้นการไปรีเมคซ้ำของดีๆ แบบนั้นมันไม่เข้าท่า ถึงกับมีคนเปรียบว่า “เหมือนพยายามเอาสีไปทาทับภาพโมนาลิซ่า” อย่างนั้นเลย
จำได้ว่าตอนที่ The Thing ฉบับสร้างใหม่เข้าฉาย มีคนรีเควสท์ให้ผมรีวิว The Thing ปี 1982 เยอะมาก ไม่ใช่เยอะธรรมดา เยอะถึงขนาดผมเข้า Google แล้วใส่คำว่า “10000tip” ลงไป มันจะต่อท้ายออโต้ให้เลยว่า “The Thing”
หนังไซไฟคลาสสิกอีกเรื่องแห่งยุค 50 ครับ แน่นอนว่านี่คือต้นฉบับของ The Thing ที่ John Carpenter กำกับ โดยหนังก็ดัดแปลงจากนิยายขนาดสั้นเรื่อง Who Goes There? ของ John W. Campbell อีกที
เป็นหนังอีกเรื่องที่โดนสับจากทั่วสารทิศตอนออกฉาย ส่วนผมนั้นจำได้ว่าตอนดูในโรงรอบแรก ผมรู้สึกโอเคนะครัย อาจเพราะได้ยินเสียงวิจารณ์สับหนังจนเละเป็นบะช่อ เลยพลอยทำใจล่วงหน้าได้แล้วว่าหนังมันคงไม่มีอะไรจริงๆ ครั้นพอดูก็เป็นไปตามคาด มันเลยไม่ผิดหวัง
Oblivion เป็นอีกหนึ่งงานหนังไซไฟที่ดูเข้าท่าของเฮีย Tom Cruise ครับ แม้จะไม่ถึงกับสดใหม่มากมาย แต่ภาพโลกอนาคตที่ร้างผู้คนก็ดูสวย เวิ้งว้าง ยิ่งใหญ่ และไร้ชีวิตสมกับพล็อตเรื่อง
The Matrix Revolutions อาจไม่ใช่การสรุปไตรภาคที่ถูกใจแฟนๆ ไปเสียทั้งหมด แต่หากว่ากันถึงสิ่งที่พี่น้อง Wachowski นำเสนอแล้ว ก็ถือว่ายังน่าพอใจครับ
The Matrix Reloaded อาจไม่ใช่ภาคต่อที่เด็ดเท่าภาคแรก แต่ถ้าพูดในแง่ความมันส์และ Effect แล้ว ก็ถือว่าดูเพลินไม่เลว ซึ่งผมว่าพี่น้อง Wachowski คงกดดันพอสมควรครับ เพราะภาคแรกมันขึ้นหิ้ง แฟนๆ ก็คาดหวัง ถ้าว่าในแง่หนึ่งพวกเขาก็คงพยายามสุดๆ แล้วล่ะครับ