หากดูจากโปสเตอร์ที่ผมนำมานั้น จะพบว่าหนังออกตัวว่าได้รับรางวัลพอสมควรครับ แต่สารภาพเลยว่าระหว่างดู ผมไม่ได้รู้สึกถึงโดนกับหนังสักเท่าไร (สงสัยตาไม่ถึง)
หากดูจากโปสเตอร์ที่ผมนำมานั้น จะพบว่าหนังออกตัวว่าได้รับรางวัลพอสมควรครับ แต่สารภาพเลยว่าระหว่างดู ผมไม่ได้รู้สึกถึงโดนกับหนังสักเท่าไร (สงสัยตาไม่ถึง)
ผมเชื่อว่าทุกท่านคงรู้จักชื่อของ R.L. Stine มากขึ้นหลังจากการมาของหนังเรื่อง Goosebumps นะครับ พี่ท่านเป็นนักเขียนและนักสร้างสรรค์เรื่องราวแนวสยองขวัญผสมแฟนตาซี (แบบเด็กอ่านได้ ไม่ถึงกับน่ากลัวเกิน)
สารภาพตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังชุดนี้ครับ คือก็ตามดูทุกภาคนั่นแหละ แต่อาจไม่ได้ถูกจริตโดนใจอะไรขนาดนั้น ชื่อหุ่นในเรื่องก็จำได้แค่ อ็อปติมัส, บัมเบิลบี แล้วก็เมกาตรอนเท่านั้น (ยอมรับว่างงทุกทีเวลาหุ่นหลายๆ ตัวมาตีกัน ไม่รู้ใครเป็นใคร)
ผมรู้จักสเมิร์ฟครั้งแรกก็สมัยเด็กๆ เลยครับ จำได้ดูทางช่อง 3 ตัวการ์ตูนมันน่ารักดี รูปร่างเล็กๆ ตัวสีฟ้าๆ และจะว่าไปเนื้อหาการ์ตูนมันก็อ่อนโยนน่ารักตามสไตล์ ส่วนตัวร้ายอย่างการ์กาเมลก็ลงสูตรสำเร็จแบบบรูตัสแห่ง Popeye (ที่ไม่มีทางชนะพวกสเมิร์ฟได้เลย)
การดู Fantastic Four ล่าหลังกว่าคนอื่นคงถือเป็นความโชคดีประการหนึ่งครับ เพราะหลังจากผ่านตาคำบ่นของคนดูมามากๆ เข้า อันว่าความคาดหวังของเราก็ลดต่ำลงตามลำดับ จนก่อนจะตีตั๋วดูนี่ทำใจได้สบายๆ ครับ คือหนังจะแย่แค่ไหนก็รับได้แล้วล่ะ
ช่วงต้นๆ ของ Kidnapping Mr. Heineken ถือว่าเวิร์กเลยนะครับ เปิดเรื่องมาก็แนะนำให้เรารู้จักกับเหล่าผู้ที่กำลังจะก่อการลักพาตัว นำโดย คอร์ (Jim Sturgess) และ วิลเลม (Sam Worthington) อันเนื่องมาจากพวกเขาประสบปัญหาทางการเงิน ไปกู้ธนาคารก็ไม่ผ่าน พอถึงทางตันก็เลยวางแผนลักพา เฟรดดี้ ไฮเนเก้น (Anthony Hopkins) เจ้าของธุรกิจเบียร์ผู้โด่งดัง
นี่คือหนังต้นฉบับของเรื่องราวการลักพาตัวเฟรดดี้ ไฮเนเก้นเมื่อปี 1983 ครับ ตัวหนังเป็นสัญชาติเนเธอร์แลนด์โดยตรงเลยครับ
หากเอลเลน ริปลี่ย์ คือคู่ปรับตลอดกาลของเอเลี่ยนแล้วล่ะก็ นายเบิร์ต กัมเมอร์ (Michael Gross) นี่ก็ถือว่าเป็นคู่แค้นอมตะของเหล่าทูตนรกล้านปีล่ะครับ
การจะพูดถึงหนังเรื่องนี้ผมคงต้องแบ่งออกเป็น 2 แบบครับ
ออกตัวอีกครั้งครับว่าไม่ได้อ่านการ์ตูน ดังนั้นมุมมองความคิดของผมอาจฟังเอ๋อๆ สำหรับคอมังงะน่ะนะครับ ^_^ ดังนั้นหากผมแสดงความเอ๋อออกไปก็ขออภัยล่วงหน้าครับผม