เท่าที่รับรู้มา ดูเหมือนหนังเรื่องนี้จะโดนสับเป็นบะช่อพอสมควรเลยครับ (555) ในขณะที่ผมนั้นดูแล้วก็รู้สึกว่าดูได้เพลินๆ ไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะไม่ค่อยหวังอยู่แล้ว บวกกับสไตล์ของหนังที่ออกมาใกล้ๆ กับที่กะไว้ตั้งแต่ตอนดูตัวอย่าง
เท่าที่รับรู้มา ดูเหมือนหนังเรื่องนี้จะโดนสับเป็นบะช่อพอสมควรเลยครับ (555) ในขณะที่ผมนั้นดูแล้วก็รู้สึกว่าดูได้เพลินๆ ไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะไม่ค่อยหวังอยู่แล้ว บวกกับสไตล์ของหนังที่ออกมาใกล้ๆ กับที่กะไว้ตั้งแต่ตอนดูตัวอย่าง
เรื่องราวบทที่ 3 ของนักสืบสาวจำเป็น เฮลี่ย์ ดีน (Kellie Martin) ที่ไม่รู้ว่าคดีมันพุ่งมาหาเธอ หรือเธอเป็นฝ่ายพุ่งไปหาคดีมากกว่ากันแน่น่ะนะครับ (แต่ส่วนใหญ่ นักสืบสาวแบบเธอ ต่อให้อยู่เฉยๆ คดีก็พร้อมแวะมาหาอยู่แล้ว 555)
ผมเชื่อว่าทุกท่านคงรู้จักชื่อของ R.L. Stine มากขึ้นหลังจากการมาของหนังเรื่อง Goosebumps นะครับ พี่ท่านเป็นนักเขียนและนักสร้างสรรค์เรื่องราวแนวสยองขวัญผสมแฟนตาซี (แบบเด็กอ่านได้ ไม่ถึงกับน่ากลัวเกิน)
The Blair Witch Project เป็นหนังประเภท Found Footage เรื่องแรกในความทรงจำของผมครับ ณ ตอนที่ดูนั้นจำได้ว่ามันสด มันใหม่ มันหลอน และโดนคนจำนวนมากบ่นว่า “นี่มันหนังบ้าอะไรของมันเนี่ย”
ภาคต่อที่ย้อนไปเล่าเรื่องที่มาที่ไปของผีสางที่สร้างความสยองให้กับเหล่าวัยรุ่นใน Ouija ภาคแรก ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่แม้จะไม่ใหม่ แต่ก็ดีเหมือนกันครับ
หนังเรื่องนี้มันทางของผมชัดๆ ครับ แนวสยอง ลึกลับ น่ากลัวแบบกินบรรยากาศ มีปมปริศนาให้ตาม มีความซับซ้อนให้มึนนิดๆ แบบนี้ล่ะครับ ผมชอบ ^_^
รัก ลวง หลอน ถือว่าทำออกมาเข้าท่ากว่าที่คิดครับ
ก่อนผมนั่งลงดู โอ.ที. ผี Overtime ผมก็นึกเนื้อเพลง “รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก” ขึ้นในหัวครับ 5555
ดูจบครบไตรภาคแล้วครับสำหรับหนังชุด 4 มหากาฬพญายม ที่ดัดแปลง (แปลงไปเยอะมากกกกกกกกกกกกกก) จากนิยายกำลังภายในสุดมันส์ของอุนสุยอัน
4 มหากาฬพญายม 2 ถือเป็นภาคต่อที่เวิร์กไม่เลวครับ คือมันอาจไม่ได้ดีสุดยอด แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดูเพลินในระดับหนึ่ง ซึ่งหักกลบลบแล้วก็น่าจะพอๆ กับภาคแรกอยู่ครับ