หนังสร้างจากเรื่องจริงตอนเหมืองถล่มที่ชิลีครับ ส่งผลให้คนงานเหมือง 33 ชีวิตติดอยู่ใต้ดินที่ลึกเท่ากับความสูงของตึก 200 ชั้น
หนังสร้างจากเรื่องจริงตอนเหมืองถล่มที่ชิลีครับ ส่งผลให้คนงานเหมือง 33 ชีวิตติดอยู่ใต้ดินที่ลึกเท่ากับความสูงของตึก 200 ชั้น
ปีนี้ได้ดูหนังที่ Greta Gerwig แสดง 2 เรื่อง (เรื่องนี้และ Mistress America) และปีหน้าก็จะได้ดูอีกเรื่องคือ 20th Century Women หนังหวังรางวัลอีกเรื่องซึ่งก็ดูจะน่าสนใจไม่ใช่น้อย
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตกันอยู่แบบมีข้อจำกัดกันไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะข้อจำกัดทางสังคม ทางฐานะ หรือเพราะเรามีอนาคตให้ต้องรับผิดชอบอีกเยอะ ดังนั้นการใช้ชีวิตแต่ละนาทีก็ต้องคำนึงถึงอนาคตอยู่บ่อยๆ และนั่นเองที่ใครหลายคนอาจเรียกว่ามันคือข้อจำกัด
เหตุผลในการดูคืออยากเห็นเจ้าป้า Sally Field มาแสดงในบทปล่อยแก่แบบน่ารักๆ ครับ และผมก็ไม่ผิดหวังนะ เธอเล่นได้ดีและน่ารักกำลังเหมาะทีเดียว
จู่ๆ ผมก็หยิบหนังเรื่องนี้มาดู (หลังจากเอามาดองไว้นานพอดู) ระหว่างดูก็ถามตัวเองว่าอารมณ์ไหนถึงอยากดู แล้วก็พอจะได้คำตอบเลาๆ ว่า สงสัยคงเพราะเห็นข่าวเลือกตั้งของสหรัฐบ่อยมั้ง
หนังดราม่าผสมตลกที่ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นสไตล์ “แม่ๆ ลูก” แต่เอาเข้าจริงแล้วหนังมาเน้นที่ตัวคุณแม่ครับ ส่วนคุณลูกออกแนวบทสมทบเสริมเรื่องราวมากกว่า
พอมาลองนึกๆ ดูแล้ว ผมว่าผมจำ Clive Owen ได้แบบแม่นๆ จากบทอาร์เธอร์ใน King Arthur ครับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ห่างหายจากบทอัศวินทำนองนี้ไปเลย จนกระทั่งมาถึงเรื่องนี่นี่แหละ
บอกตรงๆ ว่าก่อนจะดูหนังเรื่องนี้ผมพยายามสะกดจิตตัวเองอยู่พอสมควรนะครับ พยายามบอกตัวเองว่าหนังที่พี่ Nicolas Cage นำแสดง แล้วมีฉากหลังเป็นเมืองลาสเวกัสน่ะ มักจะออกมาเวิร์ก ไม่มากก็น้อย (พยายามน่าดูเลยแฮะ 555)
อีกหนึ่งหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างจากเรื่องจริงของ เจสซี่ โอเว่น นักวิ่งผิวสีที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1936 ที่จัดในในประเทศเยอรมนี อันเป็นยุคสมัยที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีกำลังเรืองอำนาจ
ภาคที่ 4 ของหนังชุดนี้ครับ ได้ Chad Michael Collins รับบท แบรนดอน เบ็คเกตต์ ลูกของโธมัส เบ็คเกตต์ยอดสไนเปอร์มือพระกาฬ กับภารกิจสยบมือปืนไร้เงาที่ลงมือสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยม