หนังจาก Hallmark อีกหนึ่งเรื่องครับ ซึ่งปกติค่ายนี้ก็จะทำหนังชีวิต+ตลก+โรแมนติก ออกมา โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็จะขยันทำหนังว่าด้วยจิตวิญญาณวันคริสต์มาสมาให้ผู้ชมได้ดูกัน เพื่อเติมกำลังใจและแฝงแง่คิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
หนังจาก Hallmark อีกหนึ่งเรื่องครับ ซึ่งปกติค่ายนี้ก็จะทำหนังชีวิต+ตลก+โรแมนติก ออกมา โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสก็จะขยันทำหนังว่าด้วยจิตวิญญาณวันคริสต์มาสมาให้ผู้ชมได้ดูกัน เพื่อเติมกำลังใจและแฝงแง่คิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
Horrible Bosses 2 ถือเป็นภาคต่อที่ดูเพลินไม่หยอกครับ แม้หลายอย่างจะลงล็อคเดิม ดาราทีมเดิมเป็นส่วนใหญ่ และในบางจังหวะหนังอาจดูช้าๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าสนุก คลายเครียดให้กับผู้ชมได้ไม่เลว
Horrible Bosses น่าจะเป็นหนังที่สะกิดใจคนทำงานได้หลายอยู่ครับ เพราะว่าด้วย 3 ตัวเอกที่เจอเจ้านายสับโขก จ้องจะเอาเปรียบสารพัดตั้งแต่เรื่องงานยันเรื่องเพศ เลยทนไม่ไหว วางแผนเอาคืนมันซะเลย
Into the Woods ทำให้ผมนึกถึง Sweeney Todd โดยเฉพาะในส่วนของทำนองเพลง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะหนังทั้ง 2 เรื่องต่างก็มีคนประพันธ์เพลงชื่อ Stephen Sondheim เหมือนกัน
The Kings of Summer จัดเป็นหนังแนว Coming of Age ที่น่าสนใจทีเดียวครับ ด้านความสนุกถือว่าดูเพลินน่าติดตาม ส่วนด้านสาระก็มีอะไรหลายอย่างเก็บมาให้ขบคิด
A Novel Romance หนังรักโรแมนติกหวานๆ สไตล์ Hallmark ครับ กับเรื่องของเลียม แบรดลี่ย์ (Dylan Bruce) นักเขียนนิยายขายดีเจ้าของนามปากกา เกเบรียล ออกัสท์ที่กำลังถึงทางตันครับ เขาเขียนงานไม่ออก และเขารู้สึกได้เลยว่างานชิ้นหลังๆ ของเขามันขาดบางสิ่งไป จนมีคนแนะนำให้เขาไปพักตากอากาศ เขาเลยเดินทางไปเปลี่ยนหย่อนใจในพอร์ทแลนด์
สำหรับผมแล้ว Absolutely Anything น่าสนใจเพราะหนังกำกับโดย Terry Jones หนึ่งในดาวตลกอังกฤษคณะ Monty Python ที่พี่แกมีจินตนาการสนุกๆ และเพี้ยนๆ เอามาบอกเล่าให้แก่คนดูอยู่เรื่อยๆ
ภาคแรกถือว่าดูได้เพลินๆ แต่ในแง่รสชาติอาจยังไม่จัดจ้านหรือน่าจดจำมากนัก แต่มาภาค 2 นี่ถือว่าอะไรๆ ลงตัวขึ้นเยอะครับ ไม่ว่าจะดารา การเดินเรื่อง หรือบรรยากาศ (ที่ตรงกับช่วงคริสต์มาส)
มานั่งนึกระลึกดูแล้วรู้สึกว่าระยะหลังๆ หนังแนวตลกหรือโรแมนติกจะไม่ค่อยได้เข้าโรงกันสักเท่าไร เรียกว่าถ้าไม่ฟอร์มเจ๋งจริงหนาจริงก็เบียดเข้าไปฉายยาก
ภาค 2 ของหนังแนวสืบสวนผสมโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดัดแปลงจากนิยายชุด A Flower Shop Mystery ของ Kate Collins ครับ ภาคแรกดูแล้วก็เพลินๆ เรื่อยๆ แต่ยังไม่โดนขนาดนั้น ทว่ากับภาค 2 นี่ถือว่าทำได้สนุกเข้าเป้าทีเดียว