หมวดหมู่: Comedy

Spy Kids 4: All the Time in the World (2011) ซุปเปอร์ทีมระเบิดพลังทะลุจอ

เคยดู Spy Kids 4: All the Time in the World รอบนึงครับ เท่าที่จำได้คือไม่ได้ประทับใจอะไรนัก รู้สึกได้ว่าดีกรีความสนุกสู้ 3 ภาคแรกไม่ได้ และว่าตามจริงคือออกจะลืมๆ รายละเอียดไปแล้วด้วย แต่ล่าสุดก็เอามาย้อนดูอีกรอบเพื่อต้อนรับภาคใหม่ และกลายเป็นว่าผมโอเคกับหนังมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเพราะหัวมันจัดการปรับความคาดหวังให้พอดีกับหนังที่ดูแบบอัตโนมัติน่ะครับ – ประมาณว่ารู้ว่าจะดูอะไร ใจมันก็เลยปรับตามในระดับหนึ่ง

Chicken Run (2000) ชิคเก้น รัน วิ่ง…สู้…กระต๊ากสนั่นโลก

ตอนดู Chicken Run รอบแรกผมก็ว่าหนังฮาดีครับ ดูสนุกดูเพลิน คลายเครียดได้เข้าท่าทีเดียว มาตอนนี้ 23 ปีผ่านไปก็ได้ข่าวว่าจะมีภาคต่อตามออกมาก็เลยเอาภาคแรกมาย้อนดูอีกสักหน ผลที่ได้ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม

First Daughter (2004) เฟิร์ทส์ ดอเธอร์ ติดปีกหัวใจลูกสาวประธานาธิบดี

ตอนดู First Daughter จบ ผมบอกกับตัวเองว่าจริงๆ ผมควรจะชอบหนังเรื่องนี้นะ เพราะจะว่าไปผมก็ชอบในบทสรุปของเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่หากพิจารณาตัวหนังโดยรวมตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมทั้งสำรวจความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหนังแล้ว ก็คงต้องบอกว่าหนังยังไปไม่ถึงในจุดที่ควรจะเป็น และถือว่าหนังอยู่ในระดับกลางๆ ครับ

The Prince & Me (2004) รักนาย เจ้าชายของฉัน

ผมเคยดู The Prince & Me เมื่อนานมาแล้วครับ ยอมรับว่าจำอะไรไม่ได้เลยนอกจาก Julia Stiles ที่ผมว่าเล่นเรื่องไหนเธอก็ทำหน้าที่ได้ดีเสมอ ในขณะที่ตัวหนังนั้นรู้สึกกลางๆ ครั้นมีโอกาสคว้าเอามาดูอีกรอบก็รู้สึกโอเคกับหนังมากขึ้นหน่อยนึง แต่กระนั้นก็รู้สึกครับว่าหนังยังไม่ลงตัวคล่องคอแบบเต็มร้อย มีทั้งจุดที่เข้าท่าและจุดที่แปร่งปร่าผสมกลั้วๆ กันไป

ปฏิบัติการลุยตลาดรัก (2007) Hooked on You

เคยไหมครับ ยามเราดูหนังสักเรื่องแล้วก็พบว่าเรารู้สึกไม่สนุกกับการดูหนังเรื่องนั้นเลยเนื่องจากมันมีอะไรบางอย่างที่เราไม่ชอบปรากฏอยู่ในนั้น เช่น ไม่ชอบมุกตลก ไม่ชอบเนื้อเรื่อง ไม่ชอบโทน หรือไม่ชอบตัวละครบางตัวที่ยิ่งดูยิ่งรำคาญ จนแทบจะหยุดดูหนังซะเดี๋ยวนั้น แต่ครั้นพอทนดูไปเกินครึ่งเรื่อง นอกจากความไม่ชอบจะค่อยๆ หายไปแล้ว มันยังกลายเป็นว่าเราชอบครึ่งหลังของหนัง ประมาณว่ามันโดนใจเราอย่างยิ่ง

Ticket to Paradise (2022) ตั๋วรักสู่พาราไดซ์

ดูจากหน้าหนังแล้วก็สัมผัสได้ครับว่า Ticket to Paradise จะออกมาเป็นหนังเบาๆ เป็นโรแมนติกคอเมดี้ที่ดูเพลินๆ แบบไม่ต้องคิดเยอะ แล้วความรู้สึกหลังดูเสร็จก็ตามนั้นครับ ดูจบหนึ่งรอบก็ได้ไปหนึ่งเพลิน

เกิดมาต้มตามพรหมลิขิต (1991) The Magnificent Scoundrels

เกิดมาต้มตามพรหมลิขิต หนังฮาที่ทั้งบ้าและบ๊องส์ของเฮียโจวซิงฉือครับ เรื่องนี้พี่ท่านมาในมาดนักตุ๋นกะล่อนลิ้นทองที่ไหลไปได้เรื่อยๆ แล้วโชคชะตาก็พาเขาไปเจอกับนักตุ๋นสาวอีกคน (Teresa Mo) แล้วจับพลัดจับผลูพวกเขาก็ต้องมาเจอกับอีกหนึ่งทีมตุ๋น (ประกอบด้วย อู๋หม่า (Wu Ma), เถียนหนิว (Niu Tien) และ เยี่ยจื้อเหม่ย (Amy Yip)) งานนี้นักต้มเลยต้องตัดกับนักตุ๋น หลอกลวงกันไปมาจนอลหม่านวุ่นวายทั้งเรื่อง

หย่งชุน หมัดสะท้านภพ (1978) Warriors Two

หย่งชุน หมัดสะท้านภพ – Warriors Two เป็นงานกำกับชิ้นที่ 3 ของเฮียหมูหินหงจินเป่าครับ ซึ่งถือว่ามีพัฒนาการขึ้นจาก 2 เรื่องแรก จนพูดได้เต็มปากว่านี่เป็นอีกหนึ่งหนังกังฟูที่ดูสนุกและควรค่าแก่การรับชมครับ