Matthew McConaughey และ Kate Hudson คู่ขวัญจาก How to Lose a Guy in 10 Days มาแท็กทีมกันอีกรอบครับ กับงานกำกับของ Andy Tennant แห่ง Sweet Home Alabama และ Hitch โดยจับเอาเรื่องการตามล่าสมบัติมาผสมกับความรักกุ๊กกิ๊กน่าหยิกสไตล์พ่อแง่แม่งอน
Matthew McConaughey และ Kate Hudson คู่ขวัญจาก How to Lose a Guy in 10 Days มาแท็กทีมกันอีกรอบครับ กับงานกำกับของ Andy Tennant แห่ง Sweet Home Alabama และ Hitch โดยจับเอาเรื่องการตามล่าสมบัติมาผสมกับความรักกุ๊กกิ๊กน่าหยิกสไตล์พ่อแง่แม่งอน
หนังเล็กๆ แนวแอ็กชันพะบู๊ที่ Jean-Claude Van Damme เป็นผู้นำแสดงในช่วงขาลงเรียบร้อยแล้ว
เมื่อรู้ว่าหนังล่มหนักมากที่อเมริกา ใจก็อยากดูขึ้นมาเลยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ (รายได้ในอเมริกาน่าจะไปสุดแถว $40 ล้านน่ะครับ ในขณะที่ภาคก่อนๆ ทำเงินหลักร้อยล้านทั้งนั้น)
ลองคิดคำตอบสำหรับคำถามนี้สักนิดนะครับ… “คุณคิดว่าศาสนานั้นให้สิ่งใดกับมนุษย์เราบ้าง?” ….ได้คำตอบแล้วพักไว้ในใจก่อนนะครับ
ก่อนอื่นก็ต้องขอออกตัวตามเคยนะครับว่า ไม่เคยอ่านครับ แฮะๆๆๆ ไม่เคยอ่านเล้ยฉบับนิยายน่ะ ไปดูด้วยความรู้เดิมที่มีล้วนๆ คือ แม้ผมจะไม่เคยอ่านก็เถอะ แต่ดั้งเดิมนั้นผมเป็นคนชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้วครับ พวกตำนานจอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) แล้วก็สมาคมลับอะไรต่างๆ สำหรับผมเรื่องพวกนี้มันมีความลึกลับและน่าสนใจดีครับ มีมนต์ขลังประมาณหนึ่งน่ะว่างั้นเถอะ
นี่ก็เป็นหนังที่สร้างจากนิยายของ Clive Cussler ซึ่งมีตัวเอกคือ เดิร์ก พิตต์ นักผจญภัยที่คอยไล่ล่าขุมทรัพย์ เป็นนิยายชุดที่ฮิตสุดๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะครับ (ก็มีออกมาเป็นสิบตอนแล้วอ้ะ ฮิตไม่ฮิตคิดดูเองแล้วกันนะครับ )
หลังจากทิ้งปมเรื่องน้ำพุแห่งความเยาว์วัย (The Fountain of Youth) เอาไว้ตั้งแต่ภาคก่อน มาคราวนี้ก็ได้เวลาสานต่อครับ กับการผจญภัยตอนที่ 4 ของกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ (Johnny Depp) เจ้าของลีลาอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะการเดิน พูด นั่ง วิ่ง ฟันดาบ กรี๊ด ดีกรีความเจ้าชู้ประตูดินชนิดหาตัวจับยาก และความสามารถในการหาเรื่องใส่ตัวบ่อยมากๆ
หนังภาคต่อของหนังผจญภัยที่ภาคแรกทำเอาไว้ไม่เลวครับ แต่ผมก็ไม่ได้ชอบมากมายนะ คือภาคแรกก็สนุกแหละครับ แต่รู้สึกเลยว่ามันเป็นหนัง Disney ตรงที่มันจะกั๊กๆ ทำอะไรก็แบบยั้งๆ ไม่เต็มที่เหมือนพวก The Mummy ที่ใส่อะไรลงมาเต็มที่กว่า
ดูจากเนื้อหาก็ทำท่าว่าจะเป็นหนังผจญภัยเหินฟ้ามุดดินสไตล์ อินเดียน่า โจนส์ มาบวกกับลีลาฟัดของเจ๊ MICHELLE YEOH ซึ่งมันคงจะสนุกเร้าใจประมาณหนึ่งเลยล่ะครับ ถ้าหากหนังสามารถนำทั้งสองส่วนมาผสมกันได้อย่างลงตัวน่ะนะ…แต่มันไม่ใช่ยังงั้นน่ะสิ
ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่สมัยที่ The Rock เริ่มเข้าวงการแสดงในเรื่อง The Scorpion King แล้วล่ะนะครับ (The Mummy Returns เป็นแค่บทรับเชิญครับ ต้องเรื่องหลังนี่ถึงจะเต็มตัว ) ก็กะว่าพี่แกจะมีแนวโน้มสูงมากๆ ที่จะโด่งดังเจริญรอยตามพี่บึ้กรุ่นเดอะ