ผมไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งว่าจะเขียนสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ดีไหม ยอมรับว่ากังวลเหมือนกันครับเวลาจะต้องเขียนความรู้สึกเฉยๆ หรือลบๆ ที่มีต่อหนังสักเรื่อง เพราะบอกตรงๆ ว่าไม่อยากให้สิ่งที่เราเขียนไปกระทบความรู้สึกของใครทั้งนั้น
ผมไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งว่าจะเขียนสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ดีไหม ยอมรับว่ากังวลเหมือนกันครับเวลาจะต้องเขียนความรู้สึกเฉยๆ หรือลบๆ ที่มีต่อหนังสักเรื่อง เพราะบอกตรงๆ ว่าไม่อยากให้สิ่งที่เราเขียนไปกระทบความรู้สึกของใครทั้งนั้น
ขอบอกครับว่า “รักหนังเรื่องนี้จุงเบย “
จางจื่ออี๋ (หรือจางซิยี่) แสดงนำในหนังตลกโรแมนติกเรื่องนี้ครับ ในบทโซฟี หญิงสาวที่จมอยู่กับอดีต วันๆ เอาแต่ตามแอบดูแฟนเก่าที่กำลังมีความสุขอยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นนางเอกชื่อดังนามว่าโจแอนนา (ฟางปิงปิง) ซึ่งโซฟีก็ยังรักแฟนเก่าไม่เลิกน่ะครับไม่ว่าเขาจะเพิกเฉยต่อเธอยังไงก็ตาม ในที่สุดเธอเลยพยายามหาทางฉุดคนรักเก่าให้กลับมาด้วยสารพัดวิธีต๊องๆ เท่าที่สมอง (สุดฮา) ของเธอจะนึกออก
ความลับนางมารร้าย มีองค์ประกอบเข้าท่าหลายอย่าง ตั้งแต่การแสดงที่เด่นเอาเรื่องของอาเล็ก ธีรเดช, ความกวนยวนๆ ของพี่ยัด เฟ็ดเฟ่, รัศมีของคุณเพ็ญพักตร์ที่สามารถขโมยซีนได้ทุกรอบที่ปรากฏตัว และความน่ารักในหลายวาระของมิน พีชญา (เช่น ฉากท้ายเรื่อง เป็นต้น)
ในฐานะที่ตามดูหนังพี่ต้อม ยุทธเลิศมาสิบกว่าปี ความรู้สึกหนึ่งที่เกิดเสมอยามดูหนังของพี่เขาคือ หนังมักจะมีจุดโดนๆ ในช่วงต้น พอมาถึงกลางเรื่องก็มักจะมีจุดที่ทำให้รู้สึกแย้งในใจเล็กๆ หรือรู้สึกว่า “มันไม่ใช่แฮะ”
ว่าตามจริงผมชอบพล็อตของ The Rewrite ครับ เพราะถ้าปรุงออกมาดีๆ ล่ะก็ หนังจะให้สาระแก่ชีวิต ให้แง่คิดต่อหัวใจ และให้กำลังใจทั้งกับคนที่กำลังมีฝันและคนที่ความฝันกำลังจะหมดอายุลงไป
หนังโรแมนติกเบาสมองดูสบายสไตล์ Hallmark ครับ ^_^
ที่เขาว่ากันว่า “ความคิดมีผลต่อทิศทางของชีวิตเรา” นั้น ถือว่าจริงไม่ใช่น้อยเลยครับ
รู้สึกว่าระยะหลังๆ หนังรักดูจะเข้าโรงน้อยลงนะครับ ไม่ว่าจะรักหวานๆ รักขำๆ หรือรักขมๆ ก็ตาม เรียกว่ามีน้อยจนผมต้องไปพึ่งพาดูหนังหวานๆ จาก Hallmark กันเลยล่ะ
ได้ข่าวเหมือนกันครับว่าหนังเล็กๆ เรื่องนี้มีดีไม่น้อย ก็เลยขอลองสักหน่อย