ที่เขาว่ากันว่า “ความคิดมีผลต่อทิศทางของชีวิตเรา” นั้น ถือว่าจริงไม่ใช่น้อยเลยครับ
ที่เขาว่ากันว่า “ความคิดมีผลต่อทิศทางของชีวิตเรา” นั้น ถือว่าจริงไม่ใช่น้อยเลยครับ
Alejandro Amenábar ผู้กำกับที่หลายคนจดจำได้ดีจากหนังระทึกขวัญชั้นยอดอย่าง Tesis, Abre los ojos (Open Your Eyes) และ The Others กลับมาอีกหนในหนังแนวระทึก+สยอง+ลึกลับ ซึ่งจริงๆ น่าจะเป็นอะไรที่พี่แกถนัดน่ะนะครับ
รู้สึกว่าระยะหลังๆ หนังรักดูจะเข้าโรงน้อยลงนะครับ ไม่ว่าจะรักหวานๆ รักขำๆ หรือรักขมๆ ก็ตาม เรียกว่ามีน้อยจนผมต้องไปพึ่งพาดูหนังหวานๆ จาก Hallmark กันเลยล่ะ
ต้องยอมรับนะครับว่าของอะไรก็ตามที่ฮิตขึ้นมาน่ะ มันจะต้องโดนคนทำหนังจับมาใส่เรื่องผีสางเหนือธรรมชาติลงไปเสมอ 555
หลังจาก Cell ทำให้ผมเซ็งชีวิตไปพอประมาณแล้ว ก็ขอหาหนังมาฟื้นฟูศรัทธาด้านความสยองตื่นเต้นสักเรื่องน่ะนะครับ แล้วผมก็เลือกเรื่องนี้ครับ เพราะกระแสถือว่าสวยมากทีเดียว
Hard Target ภาคแรกมีความหมายต่อผมในฐานะเป็นหนังแอ็กชันเรื่องแรกที่ John Woo ทำให้กับ Hollywood แม้ตัวหนังจะไม่ได้เด็ดขาดอะไรมาก แต่ก็ถือว่ามันส์ครับ อีกอย่างคือหนังจัดเต็มลีลาแบบ Woo แบบเต็มพิกัดไม่ว่าจะสโลว์, สไลด์ยิง, ถือปืนสองมือ หรือเอาปืนมาจ่อใส่กัน
บนเวทีแจกรางวัลออสการ์ประจำปี 1973 มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือเป็นปีที่มีหนังที่ได้รางวัลออสการ์ไปถึง 8 ตัว ซึ่งถือว่ามากที่สุดในปีนั้น แต่หนังเรื่องที่ว่าไม่ได้รางวัลในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม… ใช่ครับ เรากำลังพูดถึงหนังเรื่องนั้นกันอยู่
คู่กรรมฉบับนี้มีกระแสแง่ลบเกิดขึ้นจนน่าตกใจ โดยผมเองก็ไม่ได้ไปพิสูจน์ในโรงครับ ต้องรอออกแผ่นแล้วค่อยว่ากัน (เป็นไปได้ว่ารีวิวนี้จะสปอยล์ครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากทราบข้ามไปอ่านดาวสรุปได้นะครับ)
ได้ข่าวเหมือนกันครับว่าหนังเล็กๆ เรื่องนี้มีดีไม่น้อย ก็เลยขอลองสักหน่อย
ชื่อตอนสั้น ความยาวก็ไม่มากครับสำหรับภาคนี้ ที่จับเอาเรื่องราวหลังจากบุญชูกับโมลีได้แต่งงานกันและกำลังจะมีลูกในไม่ช้า แต่ก็เกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อมีโจรบุกปล้นตลาด ยิงปืนต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนคุณโมโดนลูกหลงเข้ากลางหลัง โอกาสเป็นตายเท่ากัน