ภาพยนตร์แนวระทึกที่เล่นเอาคนดูในโรงมึนกันถ้วนหน้าครับ ถ่ายแบบกล้องวีดีโอเหมือน The Blair Witch Project ส่ายไปส่ายมาทั้งเรื่อง จนถ้าใครสายตาไม่แข็งแรงล่ะมีอันอยากออกจากโรงไปตั้งหลักแทบทุกคน (หรือไม่ก็อาศัยพนักพิงแถวข้างหน้าโอ้กไปก่อนล่ะ ฮ่าๆๆ )
ภาพยนตร์แนวระทึกที่เล่นเอาคนดูในโรงมึนกันถ้วนหน้าครับ ถ่ายแบบกล้องวีดีโอเหมือน The Blair Witch Project ส่ายไปส่ายมาทั้งเรื่อง จนถ้าใครสายตาไม่แข็งแรงล่ะมีอันอยากออกจากโรงไปตั้งหลักแทบทุกคน (หรือไม่ก็อาศัยพนักพิงแถวข้างหน้าโอ้กไปก่อนล่ะ ฮ่าๆๆ )
ชื่อไทยกับชื่อฝรั่งนี่ไม่ได้สัมพันธ์กันเลยให้ตายเถอะ
ปีนี้ Jurassic World จะมา ค่ายหนังเกรดบีก็ไม่รอช้าครับ เข็นเอา Jurassic City มาฉายตัดหน้าซะเลย 5555
แน่นอนว่า Big Ass Spider! ไม่ใช่หนังหวังออสการ์ครับ (555) แต่เป็นแนวสัตว์โลกน่ารักเกรดบีพิมพ์นิยมที่กลุ่มแฟนๆ พร้อมจะตามดูทุกครั้งที่มีหนังแนวนี้ออกมา แล้วก็เป็นการดูแบบไม่ถือสาหาเหตุผล ขอให้ออกมาเพลิน ฮาบ้าง สยองบ้าง แค่นี้ก็โอเคแล้ว
Jurassic World อาจไม่ใช่หนังไดโนเสาร์ที่สดใหม่ แต่ถ้าถามหาความบันเทิง ความลุ้น และความตื่นเต้นล่ะก็ หนังก็จัดว่าตอบโจทย์พวกนี้ได้ไม่เลวครับ
ไม่รู้ว่าแปลกไหมนะครับ แต่ผมโอเคกับ Ju ภาคนี้มากกว่าภาคก่อน อาจเพราะความคาดหวังที่ลดลง
แรกเริมเดิมที Jurassic Park นั้นจะไม่มีภาคต่อหรอกครับ เพราะ Michael Crichton เจ้าของบทประพันธ์ตั้งใจจะเขียนแค่ภาคเดียว ขนาดว่าแฟนๆ เขียนจดหมายส่งมาขอให้เขาเขียนภาคต่อ พี่ท่านก็ยังเซย์โนลูกเดียว
ผมดูหนังเรื่องนี้อีกรอบเมื่อเช้าเองครับ ดูจบแล้วก็ไม่มีข้อกังขาใดๆ ขอยกตำแหน่งยอดหนังไดโนเสาร์ตลอดกาลในดวงใจให้ Jurassic Park ไปเลย
รู้สึกผมจะไม่ได้เขียนเกี่ยวกับหนังสัตว์โลกน่ารักไปนานเหมือนกันนะครับ สำหรับเรื่องนี้ ว่าตามจริงผมน่ะอยากดูมานานแล้วครับ เพราะมันเป็นงานที่สร้างจากนิยายของ Peter Benchley คนเขียน Jaws น่ะครับ และผมเองก็เคยรีวิวภาคนิยายไปแล้วด้วย ซึ่งผมชอบนะครับ ชอบมากเลยล่ะ มันอ่านสนุก เพลิน ตื่นเต้นปนสยอง ครบรสสำหรับนิยายแนวสัตว์ประหลาดกลางทะเล
มาครับ ช่วงนี้มีโรคแวะมาทักทายผมบ่อยจริงๆ ซึ่งผมหายนานแล้วล่ะครับ แต่ก็ต้องไปทำงานประจำต่ออีกหนึ่งชุดเลยห่างจากการเขียนไปนานมากๆ เอาล่ะครับ ผมก็มีโอกาสเลยอยากเขียนถึงหนังสักหน่อย เอาเรื่องที่เขียนง่ายๆ ก่อนแล้วกันนะครับ กับเรื่องนี้ค้างคาวสยองภาคสอง