ยอมรับนะครับว่าตอนแรกผมคาดหวังเรื่องฉากแอ็คชั่น พวกคิวบู๊มันส์ๆ อะไรประมาณนั้น แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่ผมได้จากหนังออกจะเป็นอะไรที่ผิดคาดอยู่หน่อยๆ
ยอมรับนะครับว่าตอนแรกผมคาดหวังเรื่องฉากแอ็คชั่น พวกคิวบู๊มันส์ๆ อะไรประมาณนั้น แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่ผมได้จากหนังออกจะเป็นอะไรที่ผิดคาดอยู่หน่อยๆ
ก่อนดูนี่ผมมองข้ามหนังเรื่องนี้เลยครับ คือคิดว่ามันคงเป็นหนังต๊องๆ ฮาๆ ไม่เน้นสาระแบบที่ดูผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ที่ไหนได้ หนังเพลินเอาเรื่องเลยล่ะครับ
ภาคต่อที่มีการเปลี่ยนบทตัวเอกกันเล็กน้อยนะครับ ตอนแรกผมก็แอบกลัวว่าหนังจะดร็อปลงไหม แต่กลายเป็นว่าความสนุกของหนังนี่ใกล้ๆ กับภาคแรกเลย
ในยุคสมัยที่ชาวฮั่นถูกพวกแมนจูกดขี่ข่มเหง คนมากมายต้องสูญเสียชีวิตไป โดยเฉพาะใครก็ตามที่ต่อต้านพวกแมนจู หนึ่งในนั้นก็คือ หลิวอี้เต๊อะ (หลิวเจียฮุย, Liu Chia Hui) ที่ต้องระหกระเหินจากบ้าน เขาตัดสินใจเดินทางไปยังวัดเส้าหลิน ออกบวชได้ฉายามาว่าซันเต๋อ เพื่อที่จะได้ฝึกวิทยายุทธมาต่อกรกับพวกแมนจู แต่ที่เขาไม่รู้เลยก็คือ การฝึกยุทธที่เส้าหลินหาใช่ของง่าย เขาต้องอดทนฟันฝ่านอุปสรรคมากมาย
โซ่เหล็ก ทงเปียว (ตี้หลุง, Ti Lung) ต้องติดคุกถึง 15 ปีเพราะนักฆ่าเจ้าของฉายาเสือดำหลั่นเฟย (จิงเหมี่ยว, Ching Miao) ดังนั้นพอเขาออกจากคุกมาได้ เขาเลยตรงไปยังเมืองอินทรีบินเพื่อหาทางแก้แค้น
เจ้าสำนักบ้าน 5 พิษ (Dick Wei) ได้สั่งเสียกับลูกศิษย์คนเล็ก หยางเต๋อ (เจียงเซิน, Chiang Sheng) ให้ออกตามหาศิษย์พี่ทั้ง 5 คนเพื่อหยุดยั้งไม่ให้พวกเขาเอาวิชาของสำนักไปใช้ในทางที่ผิด
ตอนต้นของยุคสมัยที่ประเทศจีนมีการปฏิวัติ เหล่าแม่ทัพทั้งหลายก็ตั้งต้นเป็นใหญ่และกอบโกยผลประโยชน์กัน หนึ่งในนั้นคือ แม่ทัพโฮ่วเจีย (หลิวเต๋อหัว, Andy Lau) ที่เหลิงในอำนาจอย่างมหาศาล แต่แล้วอำนาจของเขาก็ถูกโค่นลงโดย เฉาหมั่น (เซี๊ยะถิงฟง, Nicholas Tse) มือขวาของเขาเอง
เหอเจิน (หวังยี่, Wong Yue) โจรกะล่อนที่ขโมยของแล้วนำเงินไปเที่ยวหอเริงรมย์ ทีนี้วันหนึ่งเขาได้พบกับใต้เท้าหวัง (หลิวเจียฮุย, Liu Chia Hui) พ่อค้าที่ดูจะล่ำซำมั่งคั่ง หลังจากเขาโดนใต้เท้าหวังสั่งสอนไปพักหนึ่งถึงได้รู้ความจริงว่า ใต้เท้าหวังคือองค์ชาย 11 ที่อาจจะได้เป็นรัชทายาท
ก็เป็นอีกหนึ่งยิปมันที่สร้างกันออกมาครับ โดยได้ ตู้อวี่หัง (To Yu Hang) ที่เคยแสดงยิปมันมาแล้วใน ยิปมัน 3 เปิดตำนานปรมาจารย์หมัดหย่งชุน หรือ The Legend Is Born – Ip Man
ดูจากชื่อฝรั่งตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นหนังแนวผจญภัยตามหาสมบัติ ครั้นพอดูจริงๆ ก็พบว่าไม่ใช่แบบนั้นครับ ก็คือเป็นหนังพะบู๊ตีกันสไตล์ Shaw Brothers นั่นแหละ