การเดินทางบนฟ้าตอนนี้จะเริ่มกันที่เมืองบูยง (Bouillon) ตรงหัวมุมตะวันออกเฉียงใต้ของเบลเยี่ยม เลาะไปตามแม่น้ำเซมัวส์ (Semois River) ผ่านป่าอาร์แดนน์ (Ardenne Forest) แล้วเราจะเจอเมืองดินันท์ (Dinant) ที่ครั้งหนึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเบียร์ที่หมักโดยนักบวช เมือชาร์เลอรัว (Charleroi) ที่เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมในช่วงศตวรรษที่ 19 จากนั้นเราจะได้พบกับวอเตอร์ลู (Waterloo) หนึ่งในสมรภูมิรบที่มีชื่อที่สุดในโลก ก่อนจะสิ้นสุดการเดินทางกันที่บรัสเซลล์ (Brussels) เมืองหลวงของเบลเยี่ยม

แค่เปิดมาเจอภาพป่าอาร์แดนน์ก็ชื่นใจแล้วครับ ภาพป่าเขาไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ขึ้นกันแน่นเต็มไปด้วยความเขียว แซมด้วยภาพของแม่น้ำเซมัวส์ที่ลัดเลาะไปตามจุดต่างๆ ก่อนจะได้เห็นเมืองบูยงที่ดูคลาสสิค ยิ่งมีต้นไม้เป็นองค์ประกอบในเมืองแบบค่อนข้างหนาตาก็ยิ่งทำให้ภาพเมืองที่ว่าดูน่าสนใจขึ้นไปอีก

ถ้ดจากแม่น้ำเซมัวส์ก็ต่อด้วยแม่น้ำเมิซ (Meuse) และสำหรับคนที่ชอบการปีนผาก็ต้องไม่พลาดเฟรย์ร็อกส์ (Freyr Rocks) ที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ปีนเขาแห่งสำคัญของเบลเยี่ยม และใกล้ๆ กันนั้นยังมีปราสาทเฟรย์ (Freyr Castle) ให้เยี่ยมชมอีกด้วย

และเราก็จะได้เห็นวอเตอร์ลู สมรภูมิรบอันโด่งดังของจักรพรรดินโปเลียนอันเป็นการสิ้นสุด 2 ทศวรรษแห่งสงครามยุโรป โดยการสู้รบเริ่มต้นขึ้นที่ Hougoumont โดยทหารฝรัางเศส 14,000 นายต้องปะทะกับทหารอังกฤษกว่า 12,000 นาย โดยหลังจากการสู้รบกว่า 9 ชั่วโมง ฝ่ายฝรั่งเศสก็ได้ล่าถอยไป อันนำมาสู่บทอวสานของจักรพรรดินโปเลียน

และสำหรับเมืองบริสเซลล์แล้ว ปัจจุบันที่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของสมาคนระหว่างประเทศกว่า 2,000 แห่ง เราจึงจะได้เห็นภาพของอาคารสารพัดแบบที่มีการออกแบบเฉพาะตัวไว้อย่างน่าสนใจ และพอเรามองเมืองจากบนฟ้าก็ยิ่งทำให้เห็นครับว่าเมืองนี้มีความหลากหลายของรูปแบบอาคารและตึกสูงจริงๆ

แต่ในเรื่องนี้แม้จะมีด้านดีแต่ก็มีด้านเสียครับ เพราะสำหรับหลายๆ คนแล้ว ก็มองว่าอาคารในเมืองที่เป็นอาคารเก่าแก่โบราณกลับไม่ค่อยได้รับการรักษาไว้สักเท่าไหร่ – ก็กลายเป็นได้อย่างเสียอย่างครับ

และการพูดถึงบรัสเซลล์จะไม่สมบูรณ์เลยครับหากปราศจากภาพอโตเมียม (The Atomium) อนุสาวรีย์ที่สูง 102 เมตรที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับเทศกาลเวิร์ลแฟร์ในปี 1958 เป็นเหล็กทรงกลม 9 อันที่ถูกเชื่อมต่อกัน โดยตอนแรกมีแผนว่าจะให้สถานที่แห่งนี้ตั้งไว้เพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่ด้วยความยิ่งใฆญ่และความนิยมของมัน เลยทำให้ที่แห่งนี้อยู่ยงมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นอีกตอนที่ถือว่าครบรสในเรื่องวิวครับ ทั้งปราสาท ทั้งป่าเขา ทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ อาจไม่ใช่ตอนที่ผมชอบมากๆ แต่ก็เป็นอีกตอนที่ทำให้ผมรู้จักเบลเยี่ยมมากขึ้น

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)