Comedy

Joy Ride (2023) แก๊งตัวเจ๊ เฟียสกีข้ามโลก

หนังฮาติดเรตที่ผมรอดูอยู่พักใหญ่ครับ เพราะท่าจะฮาดี อีกอย่างคืออย่างรู้ด้วยว่างานกำกับของ Adele Lim เนี่ยจะออกมาประมาณไหน – เพราะอะไรถึงอยากรู้เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ

หนังก็ว่าด้วย 2 เพื่อนซี้สายเลือดเอเชีย ออเดรย์ (Ashley Park) และโลโล (Sherry Cola) เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาธุรกิจ แต่แล้วก็มีเควสเสริมขึ้นมานั่นคือออเดรย์ต้องหาแม่ตัวจริงของเธอให้พบ (เธอเป็นเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยสามีภรรยาอเมริกันครับ) แล้วเรื่องบ้าบอคอแตกสารพัดมันก็เริ่มจากตรงนั้นแหละ

อย่างแรกเลยที่ผมชอบคือ 4 ตัวนำของเรื่องนี่ถือว่าเล่นได้ดีครับ บ้าบอไปกันได้ อย่าง Park นี่ยืนพื้นอยู่แล้ว ส่วน Cola กับ Stephanie Hsu ในบทแคทก็บวกความบ้าเข้าไปอีกพอสมควร แต่รายที่ขโมยซีนและได้ใจผมไปเลยนี่ต้องยกให้ Sabrina Wu ในบทเดดอาย – ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงใช้ชื่อนี้ก็ต้องตามไปดูน่ะนะครับ – พวกเธอนี่ถือว่าเล่นได้ลื่น และนำมาสู่ความฮาสารพัด ดังนั้นเรื่องนักแสดงนี่คือผ่านเลยครับ ผ่านแบบบวกๆ ด้วย

ทีนี้มาถึงช่วงความฮา อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าท่านชอบความฮาสไตล์นี้ไหม คือมันฮาแบบห่ามน่ะครับ แบบห่ามๆ หื่นๆ แรงๆ ประเภทว่าเล่นเรื่องเพศและเรื่องยากันอุตลุดเต็มไปหมด คือถ้าท่านรับได้และโอเคกับแนวนี้ก็น่าจะฮาได้เยอะอยู่ แต่หากรับไม่ได้ก็อาจจะรู้สึกแหม่งๆ ไปตลอดเรื่อง

ส่วนผมนี่ก็ต้องว่าตรงๆ ว่าขีดความแรงของมุกในเรื่องอาจจะเลยเกินระดับของผมไปสักหน่อย โดยเฉพาะเรื่องเพศนี่ผมว่าหนักกว่า American Pie อีกนะ (หมายถึงภาคดั้งเดิมน่ะนะครับ ไม่ใช่ภาคลงแผ่น) อันนั้นผมว่ายังฮาแบบได้ระดับ อาจจะหื่นๆ หามๆ แต่ก็ยังไม่เกินขีด ในขณะที่เรื่องนี้อาจจะเกินขีดไปบ้างสำหรับผม แต่ผมก็มองว่าตัวเองคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายน่ะครับ เลยอาจจะแอบมีความรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง อันส่งผลให้บางจังหวะของหนังผมก็อาจจะไม่ได้รู้สึกสนุกตามไปด้วย อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบจริงๆ ครับ

แต่มุกฮาโบ๊ะบ๊ะทั่วไปนี่ผมว่าทำถึงนะ อันนี้ส่วนตัวไว้ใจอยู่แล้วตั้งแต่เห็นชื่อ Cherry Chevapravatdumrong (เชอร์รี่ ชีวประวัติดำรงค์) ที่คุ้นมาตั้งแต่ Family Guy โดยเรื่องนี้เขียนร่วมกับ Teresa Hsiao และ Adele Lim

หลายมุกนี่ถ้าเป็นคนชาติอื่นเขียนบทเราก็อาจมองได้ว่าออกแนวเหยียด แต่พอดีนี่คนเอเชียเขียนครับ เลยออกแนวแซวแบบขำๆ เอาความเป็นเอเชียมายำแบบฮาๆ อย่างการที่ออเดรย์ที่อาจจะแอบเหยียดคนเอเชียแบบไม่รู้ตัว (เช่นตอนบนรถไฟนั่น) หรืออย่างผมนี่ก๊ากหนักมากตอนพูดถึงอาม่าที่มักจะบอกให้เรากินเยอะๆ เหมาะข้าวบนโต๊ะให้หมดๆ แต่พอถึงจุดหนึ่งก็มาบ่นว่า “ลื้ออ้วนแล้วนะ” 555

ครับ ในแง่ความฮาผมว่าได้เลย แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าอาจมีที่ไม่แนวบ้างกับบางมุกที่แรงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ มองรวมๆ แล้วผมก็ยังชอบนะ ซึ่งส่วนสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ผมชอบก็คือพาร์ตดราม่าน่ะครับ โดยเฉพาะพาร์ตเรื่องแม่ของออเดรย์ที่ผมถือว่าสรุปได้อย่างสวยงาม แอบมีน้ำตาด้วยล่ะครับ และขอบอกเลยว่าดาราที่โผล่มาในพาร์ตนี้ผมถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากๆ ครับ บทแบบนี้ เอเชียแบบนี้ คนนี้แหละได้ใจมาก

อีกเหตุผลสำคัญที่นำพาผมมาดูหนังเรื่องนี้ก็คือ นี่เป็นผลงานกำกับของ Adele Lim ครับ ซึ่งเผอิญว่าเธอคนนี้จะไปกำกับ The Princess Diaries ภาค 3 (ผมชอบหนังชุดนี้มากครับ) เลยอยากขอดูว่ารสมือเธอเป็นอย่างไร และผลลัพธ์ในใจผมก็คือ ได้เลยครับ เรื่องฮาถือว่าได้ แต่ที่ใจได้ผมจริงๆ ก็คือพาร์ตดราม่าน่ะครับ พวกอะไรซึ้งๆ นี่ถือว่าได้เลย – ถ้า PD3 เธอทำซีนซึ้งๆ ได้เบอร์นี้ล่ะก็ จะขอบคุณมากๆ เลยครับผม

ใจผมอยากให้มีภาคต่อนะ ผมว่าแต่ละตัวละครนี่ยังมีอะไรให้สำรวจอีกเยอะเลย แต่ถ้ามองจากรายได้แล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เพราะทำไปเพียง $16 ล้าน แต่ทุนสร้างอยู่ที่ $32 ล้าน ก็หวังว่าตอนลงสตรีมลงอะไรต่างๆ แล้วจะได้ทุนคืนน่ะนะครับ

ผมนั้นอยากจะบอกว่า “อยากให้ลอง” แต่ก็ต้องบอกกับตัวเองก่อนนะครับว่ามุกเรื่องเพศในหนังนี่ค่อนข้างแรง ถ้าให้เทียบก็ประมาณภาค 4 – 7 ของ American Pie น่ะครับ (พวกภาคลงแผ่นนะครับ ไม่ใช่ภาค Reunion) ถ้าใครรู้ว่าไม่แนวจะข้ามไปก็ไม่ว่ากัน แต่สำหรับผมแล้วเรื่องพาร์ตดราม่า พาร์ตเพื่อน หรือมุกตลกอื่นๆ ผมว่าก็คุ้มค่าพอที่จะลองดูสักครั้งครับ

อ้อ และอีกพาร์ตที่ผมชอบคือหลังจากตอนที่เกิดเรื่องที่โรงแรมน่ะครับ ตอนที่พวกเธอนั่งรถเดินทางต่อไปจนถึงบ้านอาม่าของโลโล ช่วงนั้นผมชอบบรรยากาศ ชอบภาพทิวทัศน์ ชอบอารมณ์ของฉากเหล่านั้นจัง

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)