การเดินทาของเราในตอนนี้งเริ่มต้นจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสกอตแลนด์ (Scotland) จากเอดินบะระ (Edinburgh) ทวนขึ้นไปตามแม่น้ำฟอร์ธ (Forth River) ผ่านสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นมากมาย ต่อด้วยเมืองกลาสโกว์ (Glasgow) แล้วก็ฐานทัพเรือฟาสเลน (Faslane Naval Base) ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ถ้ำฟิงกอล (Fingal’s Cave) ถ้ำที่เป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนและศิลปินสร้างผลงานออกมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
ณ เมืองเอดินบะระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ เราจะได้พบกับตำแหน่งที่กล่าวกันว่ามันอาจจะเป็นดินแดนคาเมล็อตตามตำนานของกษัตริย์อาร์เธอร์ ซึ่งเมืองแห่งนี้แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ถือเป็นเมืองที่มีคนแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงลอนดอน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลยครับ เพราะภาพบ้านเมืองที่นี่ดูคลาสสิค มีความเก่าแก่อันเป็นเสน่ห์สำคัญของดินแดนแห่งนี้ เพราะเมืองยังคงรักษาสภาพผังเมืองตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เอาไว้
เมืองนี้ยังมีเขตเมืองใหม่ที่มีการวางแผนผังไว้อย่างน่าทึ่ง และทั้งเขตเมืองเก่าเมืองใหม่ต่างก็ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี 1995
ไฮไลต์อีกแห่งคือสะพานเหล็กแห่งแรกของโลก ซึ่งก็คือสะพานรถไฟฟอร์ธ (Forth Bridge) ที่ใช้เวลาในการสร้างกว่า 7 ปี มันถูกเปิดใช้งานในปี 1890 โดยใช้แรงงานคนไปกว่า 4,000 คน และ 57 คนในนั้นต้องเสียชีวิตไประหว่างการก่อสร้าง และที่แห่งนี้ยังเป็นที่มาของสำนวนอย่าง Painting the Forth Bridge ที่มีความหมายถึงงานที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงทำการทาสีสะพานเพื่อบูรณะจากต้นไปจนสุดสะพานแล้ว นั่นจะหมายถึงได้เวลาสำหรับการทาสีบูรณะใหม่ที่จุดเริ่มอีกครั้ง – ไม่มีวันสิ้นสุดจริงๆ ครับ
แล้วเราจะได้พบกับสิ่งก่อสร้างที่แปลกที่สุดในสกอตแลนด์ มันสร้างเสร็จในปี 1761 โดยท่านเอิร์ลแห่งดันมอร์ที่ 4 (The 4th Earl of Dunmore) อาคารที่ว่าถูกสร้างเป็นรูปสับปะรดยักษ์เพราะมันเคยเป็นเรือนสำหรับเพาะพืชหายาก หนึ่งในนั้นก็คือสับปะรดซึ่งถือเป็นของหายากสำหรับสมัยนั้น ดังนั้นการที่ที่แห่งนี้ปลูกมันได้ก็จะหมายถึงความมั่งคั่งที่จะหลั่งไหลมายังเจ้าของ และรูปสับปะรดที่ว่าจึงมีความหมายถึงอำนาจ – ทำให้ย้อนนึกไปเลยนะครับ ว่าในอดีตนั้น การครอบครองสิ่งที่ดูธรรมดาในตอนนี้แต่หายากในตอนนั้นอย่างสับปะรด ก็สามารถทำให้เจ้าของมีอำนาจได้ถึงเพียงนั้น
สถานที่น่าสนใจถัดมาคือวงล้อฟัลเคิร์ก (Falkirk Wheel) หนึ่งในจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดในสกอตแลนด์ ที่แห่งนี้มีไว้เพื่อยกเรือลงและขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างคลองฟอร์ธแอนด์ไคลด์ (Forth & Clyde Canal) และคลองยูเนียน (Union Canal) ซึ่งนี่คือลิฟต์สำหรับยกเรือเพียงที่เดียวในโลก และที่น่าทึ่งไปที่สุดคงเป็นว่าพลังงานที่ใช้ไปสำหรับการหมุนของกงล้อนี้ 1 รอบ จะเท่ากับพลังงานในการต้มน้ำเพียง 8 กาเท่านั้นเอง
ปิดท้ายกันที่ถ้ำฟิงกอล เกาะมหัศจรรย์ที่เกิดจากการสรรสร้างของธรรมชาติ มันดูยิ่งใหญ่ อลังการ และทรงพลังเอามากๆ จนเข้าใจได้เลยว่าเพราะอะไรมันถึงได้สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปินมาหลายยุคหลายสมัยขนาดนี้
เป็นอีกตอนที่ดูแล้วอิ่มเอมไปกับความงดงามของวิวทิวทัศน์และสิ่งปลูกสร้างสารพัดครับ
สองดาวกับสามส่วนสี่ดวงครับ
(7.5/10)












