อีกหนึ่งหนังแนวสร้างพลังใจครับ ด้วยการเอาชีวิตของนักมวยนักเทศน์ จอร์จ โฟร์แมน มาบอกเล่า

หนังก็เล่าตั้งแต่ตอนจอร์จยังเป็นเด็ก จนเติบโตมาเป็นหนุ่มเลือดร้อน (Khris Davis) ก่อนที่จะได้ ด็อก บราวดัส (Forest Whitaker) มาช่วยส่งเสริมจนเขากลายมาเป็นนักมวยเหรียญทองโอลิมปิคและสร้างตำนานอีกหลายอย่างให้กับวงการกีฬาหมัดมวย

สมทบด้วย Sonja Sohn ในบท แนนซี่ แม่ผู้เคร่งศาสนาของจอร์จ, John Magaro เป็นเดสมอนด์ เบคเกอร์ เพื่อนสนิทของจอร์จ, Shein Mompremier เป็น พอลล่า แฟนของจอร์จ และ Sullivan Jones มารับบท โมฮัมหมัด อาลี คู่ชกคนสำคัญที่กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตของจอร์จ

หนังสร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงครับ ซึ่งบางอย่างก็ตรง แต่บางอย่างก็ดัดแปลง อย่างเช่นจริงๆ แล้วจอร์จแต่งงาน 4 ครั้งครับ แต่ในหนังได้จับเอาเฉพาะการแต่งงานครั้งแรกกับครั้งที่ 4 มานำเสนอ ดังนั้นถ้าอยากรู้ชีวิตของเขาแบบเป๊ะๆ ก็ต้องหาอ่านเพิ่มเติมเอานะครับ ในขณะที่ฉบับหนังนี่ก็ถือว่าดูเอาบันเทิง แล้วก็ดูเอาพลังใจ ดูให้เกิดพลังบวกก็แล้วกัน

หนังกำกับโดย George Tillman Jr. เจ้าของผลงานที่ผมรักอย่าง Men of Honor ซึ่งก็สร้างจากเรื่องจริงเหมือนกัน ก็พอจะบอดกได้ว่าเรื่องนี้ยังไม่เด็ดขาดเท่าเรื่องนั้นครับ แต่ก็ถือว่าอยู่ในข่ายดี การเล่าเรื่องถือว่าลื่น ดูได้เรื่อยๆ แล้วก็ชวนติดตามพอสมควร ซึ่งนอกจากผู้กำกับจะคุมหนังได้ดีแล้ว ดาราก็เป็นพลังสำคัญครับ โดยเฉพาะ Davis ที่สวยวิญญาณจอร์จ โฟร์แมนได้เยี่ยมมากๆ ดูน่าเชื่อทั้งในยามที่เขาเลือดร้อนอารมณ์แรง หรือในยามที่อ่อนโยนหลังจากเจอเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตมา เขาก็ดูใจเย็นขึ้น ดูมีสติมากขึ้นจริงๆ

ดาราดีครับ การเล่าเรื่องก็ดี เพียงแต่บทในช่วงหลังๆ ความน่าสนใจอาจจะดร็อปลงไปบ้าง ซึ่งการที่ช่วงต้นมันดูน่าสนใจกว่าหน่อยก็อาจเพราะเราจะได้เห็นจอร์จฟันฝ่าอุปสรรคมากกว่า ในขณะที่ช่วงหลังความเข้มข้นหรือความบีบเค้นอาจไม่มากเท่า แต่หากจะมองในเชิงว่าช่วงหลังๆ เขาใจเย็นแล้ว มีสติแล้ว เลยรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้นจนขนาดของปัญหาดูเล็กลง มันเลยไม่บีบเค้นเท่าครึ่งแรก อันนี้ก็มองได้เหมือนกัน

อีกหนึ่งพลังคือดนตรีครับ Marcelo Zarvos ถือว่าทำถึง อย่างตอนต้นที่จอร์จเริ่มหัดต่อยมวย ท่วงทำนองของดนตรีก็จะให้อารมณ์เหมือนเรากำลังเป็นสักขีพยานการหล่อหลอมและบ่มเพาะของอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ เรื่องดนตรีนี่ช่วยเพิ่มพลังให้หนังได้ไม่น้อยทีเดียว

สำหรับในแง่สาระผมมองว่าหนังเรื่องนี้มีคุณค่ามากในประเด็นที่ว่า “อะไรบ้างที่เราควรพึงระวัง หลังจากประสบความสำเร็จ” เพราะเราจะได้เห็นจอร์จตอนก่อร่างสร้างตัว ไปจนถึงตอนที่ประสบความสำเร็จจนเงินทองไหลมา เรื่องดีๆ เทมา แล้วเราก็จะได้เห็นถึงเหตุผลของความตกต่ำในชีวิตเขาไปด้วย อันนำมา “สิ่งพึงระวังหลังประสบความสำเร็จ” ที่หนังบอกไว้ก็มีดังนี้

เรื่องแรกคือเรื่องเงิน – คนมากมายที่พอประสบความสำเร็จแล้วมีเงินมาเยอะๆ บางทีก็จะใช้เงินมือเติบ ใช้แบบไม่ทันคิดหรือคิดว่าเดี๋ยวก็หาได้ จนสุดท้ายเงินก็ร่อยหรอ และสำหรับบางคนก็ไม่แค่ร่อยหรออย่างเดียว แต่กลายเป็นว่ามีหนี้สินพะรุงพะรังมามัดหน้ามัดหลังจนไปไม่เป็น – ดังนั้นเราจึงควรไม่ประมาทเรื่องเงิน ควรวางแผน ควรบริหารให้ดี และควรรู้จักกับเก็บออม

เรื่องที่ 2 คือ เรื่องคนใกล้ตัว จุดนี้ทำเอาชีวิตหลายคนพังกันมาแล้วเพราะไว้ใจคนผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อให้คนใกล้ตัวดูแลเงินให้โดยที่เราไม่ตรวจสอบใดๆ อันเนื่องมาจากความไว้ใจ หรือไม่ก็เกรงใจ จนสุดท้ายกว่าจะรู้ตัวก็หมดสิ้น เงินหายไปไม่เหลือ – ดังนั้นถ้าทำได้ก็ควรบริหารเอง หรือถ้าจะให้ใครบริหารเราก็ต้องสามารถเข้าถึงบัญชีและตรวจสอบเงินได้ทุกเมื่อ ใครก็ตามที่พยายามถ่วงเวลายามเราขอดูบัญชีหรือตรวจสอบทรัพย์สิน (ที่เป็นของเราเอง!) ขอให้พึงระวังไว้เสมอครับ – เรื่องเงินทองนี่อย่าว่าแต่คนใกล้ตัวเลย ขนาดพ่อแม่หรือลูกแท้ๆ ก็ยังเคยเกิดเรื่องมาแล้วตั้งมากมาย

เรื่องที่ 3 คือ เรื่องคนมาติดพัน ไม่ว่าจะเพื่อนที่โผล่หัวมาสนิทกับเราทันทีที่รู้ว่าเรามีเงินเยอะแยะ หรือเรื่องเชิงชู้สาวที่ไม่ว่าคุณจมีเพศสภาพใดก็จะพร้อมมีคนมาติดพันคุณเพื่อหวังเกาะกินความสำเร็จจากคุณทั้งสิ้น นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องพึงระวังครับ เราต้องเลือกคนที่จะคบให้ดีๆ และในกรณีที่คุณมีคนรักอยู่แล้ว โปรดอย่านอกลู่ครับ นี่ก็ทำให้คนเสียมาแล้วนักต่อนักเช่นกัน หรือถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนแฟนจริงๆ ก็ควรคุยเปิดอกให้เข้าใจ แล้วค่อยเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ – แต่คุณก็ต้องรับผืดชอบในผลลัพธ์ของทางที่คุณเลือกด้วยน่ะนะครับ

เรื่องที่ 4 อันนี้ต้องระวังสุด นั่นคือ ระวังตนเองครับ ระวังไม่ให้หลง ระวังไม่ให้เหลิง การคิดว่าข้าถูกที่สุดตลอดศกและไม่ฟังใครเลยนั้นอาจไม่ใช่ทางที่ฉลาดสักเท่าไหร่ ทางที่ดีคือเราควรหาที่ปรึกษาที่พร้อมจะทักท้วงยามเราทำอะไรไม่ถูกต้อง และเราเองก็ควรฝึกสติเพื่อตรวจสอบตนเองอยู่เสมอ – บางครั้งเราก็ต้องอัพเกรดตัวเราให้ก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับความสำเร็จในชีวิตน่ะครับ มันจะได้ทันกัน สมดุลกัน

อีกเรื่องที่แถมพิเศษก็คือ เราต้องหมั่นลับคมตนเอง ยิ่งถ้าเพิ่มศักยภาพและความสามารถตัวเองได้นี่จะยิ่งดีครับ หรืออย่างน้อยก็ต้องรักษามาตรฐานของตนเอง ไม่ให้มันต่ำลงไปกว่าเดิม

และในหนังเราจะเห็นได้ว่าช่วงหลังๆ ของชีวิตจอร์จได้พลังอย่างมากมายมาจากความศรัทธาในพระเจ้า ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นครับว่าคนเราก็ต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจกันบ้าง ไม่ว่าจะด้วยศาสนา ด้วยปรัชญา ด้วยหลักการ หรือบางคนศรัทธาในตัวเองเป็นหลักก็มีเหมือนกัน นั่นก็ต้องแล้วแต่กันไปครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกไว้ก็คือ สมัยนี้คนที่เอาศรัทธามาหากินก็มีอยู่มากมาย อันนี้เราก็ต้องมีวิจารณญาณด้วยนะครับ ต้องกลั่นกรองให้ดีๆ อย่าให้มันกลายเป็นความงมงาย และแน่นอนว่าสำหรับคนที่ศรัทธาในตนเองนั้น ก็ต้องระวังด้วย – อันนี้ย้อนไปอ่านเรื่องที่ 4 ได้เลยครับ

สรุปว่าเป็นหนังดีที่ดูสนุกและได้แง่คิดครับ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้ชมกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบแนวนี้ครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)