Drama

A Quiet Place (2018) ดินแดนไร้เสียง

นี่ถือเป็นหนังที่พิสูจน์ให้เห็นครับว่าขอเพียงมีคอนเซปต์ดีๆ และคนทำทำมันได้ถึง ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็สุโค่ยได้

ยอมรับว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วเกร็งครับ คือกฎในหนังนั้นคือห้ามทำเสียงใช่ไหมครับ แต่กลายเป็นว่าระหว่างดูนี่คนดูอย่างเราๆ ก็แทบจะไม่กล้าทำเสียงดังตามไปด้วย คือมันอินครับ ดูแล้วเหมือนเราค่อยๆ ถูกดูดเข้าไปอยู่ในโลกของหนังทีละน้อยๆ

John Krasinski รับหน้าที่ทั้งแสดงนำและกำกับซึ่งก็ถือว่าเขาทำได้ดีล่ะครับ หนังความยาวราวๆ ชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้จัดว่าน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งที่ตัวละครหลักจริงๆ มีแค่ 4 คน แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรารู้สึกสนใจใคร่รู้และอยากตามดูพวกเขาไปในการผจญภัยที่แสนสะพรึงครั้งนี้ รวมถึงอยากเอาใจช่วยให้พวกเขาพ้นจากภัยร้ายที่แวดล้อมอยู่รอบตัวด้วย

ผมไม่เถียงครับว่าพฤติกรรมบางอย่างของเรแกน (Millicent Simmonds) ลูกสาวของพวกเขานั้นบางจังหวะก็อาจดูไม่น่ารักบ้าง แต่หนังก็เลือกที่จะนำเสนอในระดับที่ไม่ชวนให้หงุดหงิดจนเกินไป และในบางจังหวะก็ยังสอดแทรกภาพเหตุการณ์ให้คนดูได้รับรู้ความรู้สึกของหนูน้อยคนนี้ถือว่าเธอเองก็มีความบอบช้ำไม่ใช่น้อย (โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดกับครอบครัวก่อนหน้านี้)

ผมเอาภาคนี้มาดูซ้ำอีกก่อนจะดูภาค Day One และผลก็คือมันยังคงดูสดสำหรับผมอยู่ครับ มันยังทำให้เรารู้สึกผวาได้ รู้สึกเหมือนแวะเวียนเข้าไปยังโลกในหนัง ซึ่งถ้าเป็นของจริงผมก็คงไม่แวะไปให้เสี่ยงภัยหรอกครับ แต่พอเป็นหนังมันเลยเป็นเหมือนบันทึกประสบการณ์น่ากลัวที่เราพร้อมจะหยิบมันขึ้นมาเปิดซ้ำเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ ยามอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศชวนเกร็งชวนสะพรึงแบบนี้

ว่ากันว่าตอนแรก Krasinski จะบอกปัดไม่กำกับหนังเรื่องนี้เพราะช่วงนั้นเขาเพิ่งเริ่มงานซีรี่ส์ Jack Ryan พอดี แต่ด้วยความน่าสนใจของตัวหนังและด้วยเนื้อหาที่ว่าด้วยครอบครัว ก็เลยทำให้เขาตกลงใจที่จะกำกับ – และอีกหนึ่งแรงที่เชียร์ให้เขากำกับก็คือ Emily Blunt ศรีภรรยาในชีวิตจริงของเขา

และว่ากันว่าตอนแรกทางค่ายดาวภูเขา Paramount Pictures คิดจะรวมหนังเรื่องนี้เข้ากับจักรวาลของ Cloverfield แต่ด้วยความตั้งใจของทีมเขียนบท (ซึ่งก็คือ Bryan Woods, Scott Beck และ Krasinski) ที่ต้องการจะให้หนังเรื่องนี้เป็นงานชิ้นใหม่ที่มอบความแตกต่างให้กับตลาดภาพยนตร์ มากกว่าจะให้มันเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ดูเหมือนใครๆ ก็พยายามจะทำออกมา แล้วในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นชัดเจนของทีม ทางค่ายก็เลยยอมตามนั้น

แล้วหนังทุนสร้าง $17 ล้านเรื่องนี้ก็สามารถทำเงินทั่วโลกได้ถึง $340 ล้าน ก็เรียกว่ากำไรมหาศาลบานตะไทกันไปครับ

สำหรับผมหนังเรื่องนี้นอกจากจะดีงามในฐานะหนังสยองปนระทึกสั่นประสาทแล้ว ยังนับได้ว่าเป็นหนังครอบครัวที่น่าจดจำครับ เพราะหนังถ่ายทอดให้เราเห็นถึงภาพครอบครัวที่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไรมาก พวกเขาก็มีวาระที่ขัดแย้ง เห็นไม่ตรงกัน หรือเอาแต่อารมณ์ตนเองเป็นใหญ่อยู่บ้าง แต่นะครับ แต่… แต่ถ้าครอบครัวไหนที่มีความรักความห่วงใยให้ต่อกันอย่างแท้จริงล่ะก็ มันจะมีครับ มันจะมีโมเมนต์อะไรสักอย่างที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าครอบครัวนี้รักกันจริง ซึ่งฉากที่พ่อแสดงให้เห็นว่ารักลูกๆ มากแค่ไหนนั้น ก็นับเป็นฉากชวนประทับใจสำหรับผมเอามากๆ ทีเดียว

ผมเห็นด้วยกับ Krasinski ครับ ว่าหนังเรื่องนี้มีโฟกัสสำคัญที่ครอบครัวจริงๆ

สามดาวครับ

(8/10)