เจสสิก้า (DeWanda Wise) คือนักเขียนหนังสือสำหรับเด็กที่ได้แต่งงานกับนักดนตรีที่ชื่อแม็กซ์ (Tom Payne) โดยแม็กซ์นั้นมีลูกติดจากภรรยาเก่า 2 คนครับ คือเทย์เลอร์ (Taegen Burns) และอลิซ (Pyper Braun) แล้วพวกเขาก็ย้ายไปอยู่บ้านเก่าสมัยเด็กของเจสสิก้า ฮ่า ถ้าใครดูหนังสยองบ่อยนี่พอผมเริ่มพูดถึงบ้านเก่าของนางเอกนี่ ลางเริ่มไม่ดีแล้วใช่ไหมครับ มันมีเค้าว่าที่นั่นต้องมีอะไรน่ากลัวรอพวกเขาอยู่แน่ๆ
แล้วก็เป็นไปตามนั้นครับ พอย้ายบ้านไปอลิซก็ได้พบตุ๊กตาหมีที่ชื่อชอนซี่ แล้วก็ซี้กับเพื่อนตัวน้อยนายนี้อย่างรวดเร็ว แต่ก็แน่นอนว่าในบ้านเริ่มมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็แน่นอนอีกเช่นกันว่าอะไรแปลกๆ ในที่นี้ ไม่ใคร่จะหวังดีต่อเจสสิก้าและเด็กๆ สักเท่าไหร่ – เรื่องจะเป็นไงต่อก็ตามไปดูกันได้นะครับ
ถือเป็นสูตรสำเร็จอีกสูตรที่เจอบ่อยครับ ประเภทว่าตัวเอกซึ่งอยู่ในเมืองหนึ่ง จำต้องกลับไปหรือย้ายไปบ้านเก่าที่เคยอยู่ แล้วที่นั่นก็มีความสยองรออยู่ ซึ่งก็อย่างที่ผมชอบบอกนั่นแหละครับ หนังจะเล่นสูตรเดิมๆ น่ะก็ไม่ว่าหรอก ขอให้ปรุงออกมาดีๆ ทำรสชาติออกมาให้กลมกล่อมอร่อยลิ้นก็โอเคแล้ว ตัวอย่างหนังแนวนี้ที่เวิร์คๆ ก็ Dead Silence ของพี่ James Wan นี่แหละครับ ทั้งสนุกทั้งสยองครบเครื่องกันไปเลย
ส่วนเรื่องนี้ก็… ถ้าพูดถึงความน่ากลัว ผมว่าไม่เท่าไหร่ครับ คือหนังก็พยายามน่ะนะครับ พยายามจะ Jump Scare พยายามจะตุ้งแช่แฮ๋ฮึ่ม แต่มันไม่น่ากลัว อันนี้คือทั้งเรื่องเลยนะครับ ตั้งแต่ต้นจนจบนี่ในแง่ความสยองจัดว่าเบามากๆ ส่วนความน่าติดตามก็ยังไม่เยอะครับ คือจริงๆ หนังก็เดินตามสูตรนั่นแหละ มีการทิ้งปมเปิดปมตามประสา แต่มันไม่น่าสนใจ เหมือนการเล่าเรื่องมันไม่มีพลังเท่าไหร่ ประมาณว่าใช้สูตรก็จริง แต่คนทำกำลังภายในยังไม่ถึง
ครั้นพอดูชื่อคนทำก็พอเข้าใจเลยครับ เขาคือ Jeff Wadlow ที่งานกำกับ 3 เรื่องหลังคือ Truth or Dare, Fantasy Island และ The Curse of Bridge Hollow กับเรื่องนี้ผมว่าก็พอๆ กับเรื่องเหล่านั้นล่ะครับ คือหนังยังไม่สนุกแบบเต็มที่ แม้จะเอาสูตรมาใช้แต่เหมือนลูกเล่นลีลาของ Wadlow เองยังไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่ หนังเลยออกมาเรื่อยๆ ค่อนไปทางน่าเบื่อหน่อย ไม่ค่อยสนุกน่ะครับ ว่ากันอย่างนั้นเลยแล้วกัน – ส่วนตัวผมว่าเรื่อง Fantasy Island และ The Curse of Bridge Hollow ยังออกมาเวิร์คกว่าเลยครับ
อีกอย่างคือได้ข่าวว่าผู้กำกับ Wadlow เคยบอกไว้ว่าเขาทำหนังเรื่องนี้โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Poltergeist (ต้นฉบับปี 1982) ซึ่งโทนและทิศทางของหนังก็พอมีเค้าอยู่ครับ แต่ในแง่ความสยองขวัญสั่นประสาทนี่ไปคนละลู่เลยจริงๆ
ชั่วโมงแรกของหนังค่อนข้างเรื่อยและเดาทางได้ไม่ยากครับ แล้วหนังจะมาน่าสนใจมากขึ้นหน่อยก็ตอนครึ่งชั่วโมงท้ายเมื่ออะไรๆ ได้รับการเฉลยและตัวเอกต้องไปลุยเพื่อช่วยอลิซ ซึ่งช่วงที่ว่านี่ทำให้นึกถึง Insidious เลยครับ เพราะมีการทะลุมิติอะไรทำนองนั้น แต่ก็บอกได้ตรงๆ ว่าเทียบ Insidious ไม่ติดเลยครับ ทั้งในแง่ของลูกเล่น จินตนาการ หรือความหลอน
แต่หนังมีสิ่งที่ผมชอบอยู่อย่างนะครับ คือในเรื่องเนี่ยเทย์เลอร์จะได้เจอเพื่อนบ้านหนุ่มนามว่า เลียม (Matthew Sato) มาข้องแวะอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเขาก็พยายามทำความรู้จักกับเทย์เลอร์นั่นแหละครับ แต่พอมีโอกาสได้เข้าบ้านแล้วไปเจอดีเข้าเท่านั้นแหละ หลังจากนั้นมาเลียมก็ทำการรักษาระยะห่างทางสังคมกับเทย์เลอร์ทันที ประมาณว่าไม่เอาแล้วบ้านนี้ ขอไม่ยุ่งจะดีกว่า อันนี้ขอชมเลยว่าน้องตัดสินใจได้ถูกแล้ว ถือเป็นหนึ่งในตัวละครในโลกหนังสยองที่ฉลาดเอาการครับ 5555
แต่อย่างน้อยในแง่รายได้ก็ไม่ทำให้คนออกทุนเสียใจครับ เพราะทำไป $43 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนสร้างอยู่ที่ $13 ล้าน กำไรสวยๆ ล่ะครับ
สรุปได้ว่าเรื่องนี้ ผ่านมาแล้วผ่านไปครับ ถ้าอยากดูหนังแนวนี้ที่สยองจังๆ ปังๆ ปั๊วะๆ ก็ดู Poltergeist (ภาคต้นฉบับ), Insidious หรือ Dead Silence จะตอบโจทย์กว่าครับ
ดาวครึ่งครับ
(5/10)
หมวดหมู่:Horror, Movie Reviews, Mystery, Supernatural Horror, Thriller












