หนังเรื่องนี้ก็ล่มดังใช้ได้ครับ ทำเงินทั่วโลกไป $68 ล้าน แต่ทุนสร้างน่ะ $100 ล้านครับ ก็เข้าเนื้อกันไปเยอะอยู่
แต่ดูแล้วก็พอเข้าใจนะว่าทำไมทุนมันถึงสูง เพราะหนังมาในแนวผจญภัยผสมไซไฟว่าด้วย ดร. ริค มาร์แชลล์ (Will Ferrell), ฮอลลี่ แคนเทรลล์ (Anna Friel) และ วิลล์ สแตนตัน (Danny McBride) ที่ร่วมกันทะลุโลกไปผจญภัยยังต่างมิติ ซึ่งแต่ละฉากในเรื่องนี่ก็ต้องเนรมิตกันไม่ใช่น้อยล่ะครับ ซ้ำยังมีเยอะฉากด้วย เลยไม่แปลกใจที่ต้องใช้ทุนเยอะขนาดนั้น
ถ้ามองในแง่งานสร้างนี่ผมโอเคนะ ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมชอบอยู่แล้วน่ะครับ หนังแนวทะลุมิติไปยังดินแดนแปลกๆ อะไรแบบนี้ แต่ละฉากก็ฉายให้เห็นถึงจินตนาการของคนทำ ซึ่งก็ต้องถือว่าไม่เลว ดูแปลกตา ดูมีจินตนาการ โดยส่วนหนึ่งก็อิงจากฉบับเก่าๆ – Land of the Lost เคยเป็นซีรี่ส์มาก่อนครับ ช่วงยุค 70 รอบหนึ่ง แล้วก็ช่วงต้นยุค 90 อีกรอบนึง
ส่วนดาราจริงๆ ก็เล่นได้เรื่อยๆ ตามสไตล์น่ะครับ Ferrell ก็นิ่มๆ สลับเพ้อคลั่งตามแบบฉบับของเขา ส่วน McBride เรื่องนี้ดูจะเรียบร้อยกว่าเรื่องอื่นๆ เยอะหน่อย และ Friel ก็มาในแนวสาวมั่นแต่น่ารัก ดาราหลักๆ ก็มี 3 คนนี่แหละครับ ซึ่งผมว่าดาราก็ไม่มีปัญหานะ
แต่ส่วนที่ออกจะพร่องไปก็คือเรื่องบทน่ะครับ มันค่อนข้างเรื่อยเจื้อยไปหน่อย จริงๆ ก็พอเข้าใจนั่นแหละว่าหนังผจญภัยแนวนี้ก็เน้นด้นเรื่องไปเรื่อยๆ ผจญภัยไปเรื่อยๆ เพียงแต่เนื้อหาบางอย่างมันดูเบาไป บางมุกก็ออกแนวเลอะๆ ล้นๆ บางอย่างก็ติงต๊องเกิน ทำให้ความสนุกของหนังไม่ค่อยสม่ำเสมอ รสชาติยังไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าที่ควร
ดูแล้วผมก็นึกถึง Journey to the Center of the Earth น่ะครับ จริงๆ หนังมาทางเดียวกันนะ แต่ผมว่าเรื่องนั้นมันมีความพอดีกว่า เนื้อหาพอมีน้ำหนัก การผจญภัยพอจะสนุก และที่สำคัญคือหนังไม่ติงต๊องเกิน เลยพอจะมีวาระให้ตัวละครได้แสดงอารมณ์และความรู้สึกต่อกัน เราเลยจะได้เห็นมิติของตัวละครอันทำให้เรารู้สึกผูกพันไปกับพวกเขา แล้วความลุ้นมันก็จะไหลมาตามลำดับ- แม้จะพอเดาอะไรๆ ได้ก็ตาม แต่มันก็ยังจะลุ้นหน่อยๆ ได้อยู่
แต่กับเรื่องนี้พอโทนเรื่องมันดูเบา ดูแฟนตาซี มันเลยไม่ค่อยลุ้นน่ะครับ ยิ่งตัวละครมาแนวติงต๊องก็ยิ่งรู้สึกน่ะว่าพวกพี่แกไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาทางรอดได้เองแหละ 5555
ถือเป็นหนังที่ทำให้ผู้กำกับ Brad Silberling เสียรังวัดไปไม่ใช่น้อย หลังจากแจ้งเกิดกับ Casper แล้ว งานต่อๆ มาของเขาก็ถือว่าใช้ได้มาตลอด ไม่ว่าจะ City of Angels, Moonlight Mile และ Lemony Snicket’s A Series of Unfortunate Events แต่พอเจอเรื่องนี้เข้าเป้า ชีวิตเปลี่ยนเลยครับ กลายเป็นต้องไปกำกับหนังซีรี่ส์แทน แล้วก็ไม่ได้จับหนังใหญ่อีกเลยนับแต่นั้น
สำหรับผมแล้ว หนังก็ไม่ได้แย่หรอกครับ แค่มันยังไม่ดีนัก ความสนุกก็อาจไม่เยอะ แต่ผมพอใจในแง่งานสร้างนะ คงเพราะผมชอบฉากแบบมิติแปลกๆ แบบนี้อยู่แล้วเลยพอจะตามน้ำไปกันหนังได้บ้าง แล้วก็ชอบพี่ Will แกอยู่แล้วด้วย เลยพอจะเอิ้กอ้ากไปได้ แต่ก็คิดอยู่น่ะครับว่าถ้าบทหนังมันมีสมดุลกว่านี้ บทดีกว่า ชวนติดตามกว่านี้ หรือทำให้ตัวละครดูมีอะไรกว่านี้ หนังน่าจะเวิร์คขึ้นน่ะครับ
ที่เห็นชัดๆ อย่างหนึ่งเลยก็คือ ตัวละครริค มาร์แชลล์นี่ ถ้าหนังเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความรู้สึก อย่างเช่นการโดนคนทั้งโลกหัวเราะเยาะ ทั้งที่พยายามจะช่วยโลกให้พ้นจากวิกฤติพลังงาน ถ้าเน้นอะไรเหล่านี้ ทำให้เราเข้าถึงเขามากกว่านี้ หนังอาจจะดูมีอะไรมากขึ้นก็ได้
เกือบสองดาวครับ
(5.5/10)
หมวดหมู่:Action, Adventure, Comedy, Monster Movies, Movie Reviews, Sci-Fi












