ตอนนี้กล่าวถึงการที่มีคนเชื่อกันว่าในคัมภีร์ไบเบิลมีรหัสซ่อนอยู่ครับ ส่วนใหญก็จะเป็นคำทำนายเรื่องต่างๆ เหตุการณ์สำคัญบนโลก ซึ่งหลายคนก็พบว่ามันตรงกับความจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ บางครั้งถึงขั้นระบุชื่อบุคคลที่แม่นยำในแต่ละเหตุการณ์ได้เลย
ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็มองว่ามันคือเรื่องบังเอิญ และมองว่าในหนังสือที่มีจำนวนหน้าและตัวอักษรมากพอนั้น คุณจะสามารถหาวิธีถอดรหัสให้ได้คำตอบแบบที่คุณต้องการได้ – เหมือนคำกล่าวที่ว่า “ยิ่งคุณมองหาอะไรอย่างหนึ่ง คุณก็จะยิ่งเห็นสิ่งนั้นบนสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น” – ยิ่งโปรแกรมสมัยนี้สามารถถอดรหัสได้หลายแบบ มันก็ย่อมมีสักแบบที่สามารถถอดรหัสเรียงประโยคและตัวอักษรเพื่อให้ได้ข้อมูลในแบบที่คุณอยากได้
นี่ถือเป็นตอนแรกในซีรี่ส์ชุดนี้ที่ผมอยากเสนอแนะให้ท่านที่สนใจลองชมด้วยตนเอง ในแง่ข้อมูลนั้นก็ถือว่ามีการนำเสนอในระดับหนึ่ง แต่ที่ผมรู้สึกก็คือมันดูขาดอะไรบางอย่างไปพอสมควร และสิ่งที่น่าพิจารณายิ่งกว่าคือท่าทีและการแสดงออกของแต่ละบุคคลที่มาปรากฏตัวในรายการนี้ ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เรื่องข้อมูลเลย และผมอยากให้ท่านลองพิจารณาด้วยตนเองมากกว่าครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมระลึกขึ้นมาหลังดูจบก็คือ เราไม่ควรด่วนสรุป และหากสงสัยสิ่งไหนเราควรพยายามหาหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่เราจะได้เข้าใจเรื่องนั้นอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และที่สำคัญคือเราควรต้องหาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งฝ่ายที่เชื่อ ฝ่ายที่ไม่เชื่อ ฝ่ายที่เกือบจะเชื่อ ฝ่ายที่เกือบจะไม่เชื่อ หรือกระทั้งฝ่ายที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลยซึ่งบางครั้งเราก็อาจได้ข้อสังเกตที่คาดไม่ถึงมาจากพวกเขาก็ได้ – เหมือนที่หลายครั้งคำตอบของโจทย์บางโจทย์ก็มาจากคนที่รู้เรื่องเหล่านั้นน้อยที่สุด น้อยพอที่จะทำให้เขาไม่เห็นกรอบเกณฑ์ที่มักจะโอบล้อมเหล่าผู้รู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ
ผมขอใช้คำที่ Richard Syrett ชอบเอามาใช้ในหลายตอน นั่นคือ “เราต้องค้นคว้ากันต่อ และผมต้องการหลักฐานเพิ่ม”
สองดาวครับ
(6/10)












