ผมไม่เคยเล่นเกม Until Dawn ครับ และสิ่งเดียวที่ผมรู้เกี่ยวกับมันก็คือ Hayden Panettiere เวอร์ชั่นในเกมนั่นน่ารักมากมายจริงๆ 555 รู้แค่นี้เลยครับ
ส่วนฉบับหนังก็ว่าด้วยโคลเวอร์ (Ella Rubin) และเพื่อนๆ อีก 4 คนที่ออกตามหาเมลานี่ย์ (Maia Mitchell) พี่สาวของโคลเวอร์ และเบาะแสก็นำพาพวกเขามาสู่เขตกลอร์ วัลเล่ย์ ที่ว่ากันว่ามีคนมากมายหายตัวไป แล้วจากนั้นพวกเขาก็ต้องเจอกับความสยองแบบวนลูปครับ พวกเขาถูกปีศาจสารพัดแบบไล่ฆ่า ครั้นพอตายแล้วพวกเขาก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ แต่สภาพร่างกายก็เริ่มทรุดโทรมลง – ดังนั้นพวกเขาจึงต้องรีบหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะไม่ได้ฟื้นอีกต่อไป
หนังถือว่าใช้ได้ครับ ยังไม่ถึงขั้นสนุกมาก แต่ก็ดูได้เพลินๆ อย่างน้อยฉากเชือดก็ทำได้โหดและสยองพอตัว งานเทคนิคต่างๆ รวมถึงรูปโฉมของพวกฆาตกรและปีศาจก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการตามปมก็ถือว่าโอเคอีกเหมือนกัน ดูไปมันก็อยากรู้น่ะครับว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้น การเผยปมและเฉลยปมทีละเปลาะก็ถือว่าไม่เลว ถือได้ว่าโครงสร้างเรื่องและงานสร้างน่ะค่อนข้างใช้ได้
แต่ระหว่างดูก็คิดน่ะครับ ว่าจริงๆ หนังยังมีช่วงเรื่อยๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าเล่าแบบเย็บให้กระชับได้กว่านี้ แล้วปรุงความตื่นเต้นระทึกขวัญลงไปอีกสักหน่อย หนังน่าจะเวิร์คขึ้่น ว่าง่ายๆ คือหนังยังระทึกและชวนลุ้นได้อีกครับ ส่วนความสยองน่ะโอเค ถือว่าน่าพอใจ แต่ยังไม่ตื่นเต้นเร้าใจแบบสุดๆ เท่านั้นเอง
และอีกอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกเหวอไปเหมือนกันคือตอนจบครับ ยอมรับว่าเป็นอะไรที่คาดไม่ถึง คือ… มันจบง่ายแบบเกินคาด คือมันง่ายจนผมงงน่ะครับว่าเอากันอย่างนี้เลยเหรอ เพราะมันไม่ได้พลิกผัน ไม่ได้ตื่นเต้นเร้าใจ และไม่ได้ลุ้นอะไรมากเลยครับ คือบทจะจบก็จบ – ส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันทำให้หังดูดร็อปไปพอตัว เพราะอุตส่าห์ปูอะไรมาตั้งเยอะ แต่ตอนจบดันง่ายซะงั้น
หนังกำกับโดย David F. Sandberg ซึ่งผมบอกได้เลยว่าผมชอบงานก่อนๆ ของเขาอย่าง Lights Out และ Annabelle: Creation ครับ คือมันครบเครื่องถึงรสมากกว่าทั้งในเรื่องของมิติตัวละครและความสยองชวนลุ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นที่บทด้วยครับที่โครงสร้างน่ะใช้ได้ แต่รายละเอียด – โดยเฉพาะบทสรุป – มันยังดีได้อีก โดยหนังได้ Gary Dauberman (เขียนบท Annabelle ทั้ง 3 ภาค และดัดแปลงบท It ทั้ง 2 ภาค) มาดัดแปลงบทร่วมกับ Blair Butler (Hell Fest และ Polaroid) ก็แอบเสียดายเหมือนกันครับที่มันยังไม่ออกมาสุดๆ แบบที่ควรจะเป็น
แต่ผมไม่ผิดหวังนะครับ ก็กะไว้แล้วว่าคงประมาณนี้แหละ คือดูได้ พอเพลิน พอสยอง เพียงแต่ยังไม่เด็ดแบบเต็มขั้นเท่านั้น ส่วนรายได้ก็ถือว่าไม่เลวครับ ทำเงินทั่วโลกไป $54 ล้าน ด้วยความที่ทุนแค่ $15 ล้านหนังเลยพอกำไรอยู่ เพียงแต่ถ้ามองจากความดังของเกมแล้วก็คาดว่าผู้สร้างน่าจะหวังไว้มากกว่านี้นั่นแหละ
เอาเป็นว่าก็ดูได้ตามสไตล์หนังเชือดวนลูปครับ แต่ถ้าอยากดูแนวนี้ที่มันส์ๆ แบบเป็นเรื่องเป็นราวก็แนะนำ Happy Death Day ทั้ง 2 ภาค และ Totally Killer (อันนี้ไม่ได้วนลูป แต่เป็นหนังเชือดเจาะเวลา) หรือถ้าอยากดูที่มันสุดๆ ก็จัด The Cabin in the Woods ไปเลยครับ รับรองถึงใจแน่นอน
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:Drama, Horror, Movie Reviews, Mystery, Sci-Fi, Slasher Movies, Supernatural Horror












