ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 (ราวๆ เดือนมีนาคม ปี 1945) อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้มีคำสั่งให้ทำลายสะพานเรมาเกนเพื่อกันไม่ให้พวกอเมริกันรุกคืบเข้ามายังเยอรมันชั้นในได้ แต่การทำเช่นนั้นก็จะเท่ากับปล่อยให้คนของกองทัพเยอรมันกว่า 75,000 คนต้องติดอยู่อีกฟากของแม่น้ำ

ดังนั้นนายพลฟอน บร็อค (Peter van Eyck) ผู้ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ จึงพยายามหาทางถ่วงเวลาเพื่อช่วยชีวิตทหารเยอรมันให้มากที่สุด โดยได้มอบหมายให้ผู้พันพอล ครูเกอร์ (Robert Vaughn) ไปช่วยเหล่าทหารที่สะพานเรมาเกน

ขณะเดียวกันเบื้องบนของทางฝ่ายอเมริกันก็ได้มอบหมายให้ผู้พันบาร์นส์ (Bradford Dillman) ไปสั่งการให้ผู้หมวดฟิล ฮาร์ตแมน (George Segal) ผู้เป็นหัวหน้าหมู่กองทหารแนวหน้า ให้ไปยึดเม็กเกนไฮม์ (Meckenheim) รวมถึงสะพานเรมาเกนให้ได้ – งานนี้ทหารฝ่ายอเมริกันและเยอรมันเลยมีอันต้องปะทะกันที่สะพานแห่งนี้

ถือเป็นหนังสงครามอีกเรื่องที่น่าจดจำครับ งานสร้างคือดูดีทีเดียว ต่อด้วยงานภาพที่ต้องชมผู้กำกับภาพ Stanley Cortez ที่สามารถจับภาพบรรยากาศของสมรภูมิออกมาได้อย่างโดดเด่น ทั้งสวยและดูมีพลัง แล้วก็ดนตรีดีๆ โดย Elmer Bernstein นี่ก็ช่วยเสริมอารมณ์และความน่าติดตามให้กับหนังได้ไม่ใช่น้อย

จริงๆ แล้วนี่คือหนังสงครามน่ะนะครับ สิ่งที่ถือว่าเด่นคือฉากการรบไม่ว่าจะรบกันแบบยิงจากระยะไกลหรือสู้กันในระยะประชิด ซึ่งหนังก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว แต่ไปๆ มาๆ จุดที่ผมรู้สึกว่าเด่นยิ่งกว่าคือการแสดงครับ เหล่าดาราในเรื่องสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเหล่าทหารทั้ง 2 ฝ่ายออกมาได้อย่างน่าจดจำ ไม่ว่าจะ Segal, Vaughn, Dillman แต่ละคนแสดงได้อย่างน่าเชื่อ และรายที่ถือว่าขโมยซีนเป็นระยะๆ ก็คือ Ben Gazzara ในบทจ่าแองเจโล่ที่สะท้อนมิติโลกสีเทาในสนามรบออกมาได้แบบเห็นภาพ

ความรู้สึกหนึ่งระหว่างดูหนังเรื่องนี้ก็คือ อารมณ์ของหนังในบางส่วนมันให้อารมณ์เหมือนหนังแอ็คชั่นครับ ชวนให้นึกถึง The Guns of Navarone ดังนั้นใครสนุกกับเรื่องนั้นก็น่าจะโอเคกับเรื่องนี้ครับ (แต่ผมจะชอบ TGoN มากกว่าหน่อยครับ)

และหนังก็สื่อภาพ “สงครามกลืนคน” ได้ไม่เลวครับ ผ่านตัวละครผู้พันครูเกอร์ที่ตอนต้นเรื่องยามเขาเห็นนายทหารเยอรมันถูกยิงโดยพวกเดียวกันเอง (เนื่องจากทหารเยอรมันเหล่านั้นกำลังจะหนีทหาร) สีหน้าและความรู้สึกของเขามันบ่งบอกเลยว่าเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ แต่พอตอนท้ายเมื่อเขาต้องเผชิญกับความกดดันขั้นสุด เขาเองก็ได้กระทำสิ่งนั้นด้วยมือตน… สงครามนี่ น่ากลัวไม่ใช่น้อยนะครับ

ก็ถือเป็นหนังสงครามที่ทำออกมาได้ดีครับ ดูสนุก ชวนติดตาม ดาราเล่นกันดี งานสร้างถือว่าทำถึงในระดับที่น่าพอใจ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)