เหตุเกิดที่เมืองจีนครับ เมื่อมีการจัดแข่งขันวิ่งมาราธอนชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คุณหม่า (เจิ้งเพ่ยเพ่ย, Cheng Pei Pei) แห่งโรงงานหม้อชิงชิงก็หมายมั่นที่จะคว้าชัย เลยให้ 3 หนุ่มประจำโรงงาน (Cheng King Kei, Simon Lui และ ไม่ฉางชิง (Mak Cheung Ching)) ร่วมลงแข่ง

แต่ทีนี้ระะหว่างทางคุณหม่าได้เจอกับนิเชาเข้า เลยดึงมาร่วมแข่งด้วย ความวุ่นวายเลยเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น

ภาคนี้ก็เป็นภาคสุดท้ายของหนังชุดนี้แล้วนะครับ ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะว่ากันตรงๆ คือภาคนี้ไปกันใหญ่แล้วครับ จริงที่ภาคนี้ยังมีนิเชามาร่วมแสดงอยู่ แต่พื้นที่ในหนังส่วนมากมันกลายเป็นหนังตลกแบบจีนฮ่องกงที่ค่อนข้างเกร่อไปแล้ว คือถ้าท่านยังสนุกกับมุกตลกแบบเจ็บตัว หรือมุกแบบเข้าป่าแล้วไปทำเรื่องป่วนๆ ก็อาจยังพอเพลิน แต่สำหรับผมนี่สารภาพเลยว่าค่อนข้างเฉยครับ

สารภาพเลยว่าที่ผมยังดูหนังจนจบได้นี่ก็เพราะนิเชาและเหล่าดาราจีนหน้าคุ้น นอกจากที่เอ่ยไปแล้วก็ยังมีเจิ้งจั๊ดซือ (Kent Cheng), เยี่ยหวิ่นอี้ (Gloria Yip), Chan Lung, Billy Lau และหยางลี่ชิง (Cynthia Khan) พวกเขาเหล่านี้ยังพอดึงความสนใจจากคนดูอย่างผมได้ แต่ตัวเนื้อเรื่องกับกับมุกตลกต่างๆ มันค่อนข้างธรรมดาครับ

หนังมีพล็อตหลักว่าด้วยการวิ่งมาราธอนผ่านป่า แล้วก็มีเรื่องของตัวร้ายที่อยากจะจับแพนด้าไป ในเรื่องตอนครึ่งหลังเราก็เลยจะได้เห็นแพนด้ามามีบทบาท ในแง่หนึ่งก็เหมือนเป็นหนังขายความเป็นประเทศจีนน่ะครับ แต่บอกเลยว่าการนำเสนอยังไม่น่าพอใจนัก พวกโลเคชั่นสวยๆ นี่ไมค่อยเห็นเลย และผมว่าภาคก่อน ตัวละครในเรื่องมันยังมีเพดานนะ คืออาจมีอะไรที่เว่อร์บ้างๆ แต่ก็จะไม่เกินเหตุ แล้วก็ไม่ได้ต๊องเกินงาม แต่กับเรื่องนี้นี่เหมือนมีการชงตัวละครให้สุดๆ กันไป ตามสไตล์หนังฮ่องกงน่ะครับ ที่ใครต๊องก็ต๊องไปเลย ใครเว่อร์ก็เว่อร์ไปเลย หนังมันเลยขาดๆ เกินๆ อยู่ในที

แล้วภาคนี้ถึงขั้นว่านิเชาสามารถคุยกับสัตว์ได้ครับ คือไปกันใหญ่จริงๆ ก็เข้าใจแหละว่าหนังคงออกแนวกึ่งๆ แฟนตาซีไปแล้ว แต่พอย้อนไปมองถึง The Gods Must Be Crazy ภาคแรกแล้ว ก็รู้สึกได้เลยครับว่าหนังมันมาไกลมาก และไปกันใหญ่แล้วจริงๆ จากต้นทาง

ผมก็หามาดูเพื่อให้มันครบชุดครับ แล้วก็ตามมาดูเพราะนิเชาเหมือนเคยนั่นแหละ แต่ก็จะดูแค่รอบเดียวแหงๆ ไม่เหมือน 2 ภาคแรกที่ผมคงเอามาดูซ้ำหากมีโอกาส แต่ภาคพิสดาร 3 ภาคหลังนี่คงผ่านมาแล้วผ่านไป

แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนิเชาครับที่สร้างความหฤหรรษ์ให้กับผมมาตั้งหลายเรื่อง เขาอาจไม่ใช่นักแสดงอาชีพนะ แต่เขาก็สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้ และเรื่องนี้ก็คือผลงานการแสดงหนังชิ้นสุดท้ายของเขาครับ โดยเขาได้จากโลกนี้ไปในปี 2003 ก็ขอไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ครับ

ดาวหน่อยๆ ครับ

(4.5/10)

ชื่ออื่นๆ
The Gods Must Be Crazy V