เหตุเกิดที่มินดาเนาครับ เมื่อผู้ก่อการร้ายพยายามขโมยยุทโธปกรณ์เอามาทำระเบิด ผู้กองแม็กซ์ แรนดัลล์ (Mark Dacascos) เลยได้รับคำสั่งให้นำพาเหล่านาวิกโยธินไปปราบปราม แต่แล้วในภารกิจครั้งล่าสุดนี้ก็เกิดความผิดพลาดจนทำให้ผู้ก่อการร้ายระดับหัวหน้าหลบหนีไปได้

แล้วพวกมันก็เลยคิดแก้แค้นโดยการลักพาตัว เจนน่า วอลเลซ (Sofia Pernas) ลูกสาวของท่านนายพลแฮงค์ (Treat Williams) เพื่อเรียกค่าไถ่ ซึ่งก็ให้บังเอิญครับที่เจนน่าเนี่ยก็เป็นแฟนกับแม็กซ์พอดี งานนี้แม็กซ์เลยต้องบุกตะลุยแบบเต็มพิกัดเพื่อช่วยคนรักกลับมา และหาทางถอนรากถอนโคนผู้ก่อการร้ายให้จงได้

กลายเป็นว่าผมโอเคกับหนังนะครับ คือมันก็ไม่ได้ดีเด่หรือเมามันส์อะไรมากหรอก แต่ดูแล้วมันได้อารมณ์เหมือนหนังแอ็คชั่นเกรดบีในยุค 80 – 90 ที่สารพัดค่ายหนังขยันทำออกมาแล้วลงวีดีโอ ซึ่งหนังแนวเนี้ยมันจะไม่ได้มันส์มโหระทึกเพราะทุนสร้างน่ะจำกัดกว่า แต่กระนั้นหนังก็ยังพอตอบโจทย์บันเทิงให้กับคอหนังแอ็คชั่นในยุคนั้นได้ไม่ใช่น้อย คืออาจไม่ได้มันส์เท่า Die Hard หรือ Rambo แต่มันก็พอกล้อมแกล้ม พอดูได้เพลินๆ

และเรื่องนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นครับ ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเพราะหนังเรื่องนี้สร้างโดย Roger Corman ราชาหนังเกรดบีที่ก็ปเนหนึ่งในค่ายที่ขยันทำหนังแนวนี้ออกมาในยุคนั้นน่ะแหละ ครั้นมาเรื่องนี้ผมว่าโทนมันก็เหมือนหนังยุคนั้นเลยนะ คือเหตุมักมาเกิดแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (เพราะต้นทุนในการถ่ายทำจะถูกกว่าถ่ายในอเมริกาหรือยุโรป) แล้วหนังก็จะประมาณนี้น่ะครับ ตัวเอกต้องได้รับภารกิจอะไรสักอย่างไปถล่มผู้ร้ายตามป่าตามเขา อันนำไปสู่ฉากระเบิดภูเขาเผากระท่อมแบบที่ฮิตกันในสมัยนั้น ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำได้โอเคไม่น้อยหน้าหนังแนวนี้ในยุค 90 เลย

ดาราที่มาแสดงก็จะต้องเป็นระดับกลางๆ คือพอขายได้แต่พ้นช่วงรุ่งเรืองไปแล้ว ซึ่งในเรื่องก็มี Dacascos ที่หน่วยก้านก็พอจะเหมาะเป็นพระเอกอยู่ แต่รายที่ผมชอบมากหน่อยคือ Williams ผู้ล่วงลับครับ รายนี้เล่นหนังดีเสมอไม่ว่าจะเกรดใดก็ตาม มาเรื่องนี้การแสดงของเขาก็ยังได้ระดับ ดูแล้วก็คิดถึงเขาขึ้นมาเลยครับ

อันนี้ก็ต้องแล้วแต่รสนิยมล่ะนะครับ บางท่านที่ไม่ถูกเส้นกับหนังแอ็คชั่นเกรดบีมาแต่ไหนแต่ไรก็อาจจะข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย แต่ถ้าท่านโตมากับหนังเกรดบียุค 80 – 90 พวกหนังอย่าง อึดตึกนรก (Project: Shadowchaser), นัยน์ตาเหล็ก (Nemesis), ตัวแสบ 50,000 สะเทิ้น (I Come in Peace) หรือ หมัดสังหาร (Bloodfist) แล้วถูกจริตล่ะก็ เรื่องนี้ก็น่าลองอยู่ครับ แม้จะไม่ได้เด็ดดวงอะไร แต่ก็ดูได้เพลินๆ สำหรับหนังเกรดนี้ครับ

ใกล้สองดาวครับ

(5.5/10)