เรื่องแนวพ่อๆ ลูกๆ ครับ เมื่อเรย์ กลีสัน (Ted Danson) คิดจะขโมยเอาเหรียญล้ำค่ามูลค่าเป็นล้านออกมาขาย แต่เผอิญที่ตอนนั้นมีคนเอาลูกของเขาที่ชื่อ ทิมมี่ (Macaulay Culkin) ที่ห่างหายจากเขาไปนานมาฝากให้เขาเลี้ยง เลยทำให้แผนการขายเหรียญที่ว่าต้องสะดุด

จริงๆ พล็อตหนังน่ะว่าด้วยการกลับมาผูกสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกครับ ประมาณว่าทั้งคู่ห่างเหินกันไป พอกลับมาตอนแรกก็อาจจะแหม่งๆ ยังไม่เข้ากัน แต่พอเวลาผ่านไปพ่อของเรย์ก็เริ่มที่จะเห็นคุณค่าของลูก ส่วนลูกน่ะเห็นคุณค่าของพ่ออยู่แล้วครับ ดังนั้นถ้าว่ากันถึงพล็อตน่ะ จริงๆ ถือว่าเข้าท่านะ

แต่ปัญหามันคือการเล่าเรื่องโดยเฉพาะครึ่งแรกครับ ที่มันไม่ค่อยจะลื่นไหลนัก แล้วบวกกับการแสดงของ Danson กับ Culkin ที่มันดูแข็งๆ พิกล คือมันไม่ได้อารมณ์แบบพ่อลูกห่างเหินน่ะครับ แต่มันรู้สึกว่าพวกเขาเล่นแข็ง เหมือนไปไม่เป็น ไม่รู้จะส่งอารมณ์กันยังไงให้เหมือนพ่อลูกที่ห่างเหินกันไป เลยทำให้ครึ่งแรกของหนังมันค่อนข้างจืดอยู่

หนังมาเริ่มทำคะแนนเพิ่มขึ้นก็ตอนที่เรย์กับพวกพาทิมมี่ไปเที่ยวสวนสนุกน่ะครับ ช่วงนี้หนังเริ่มดูโอเค การแสดงเริ่มดูโอเคขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณเพลงเก่าๆ ดีๆ ที่หนังบรรจงใส่ลงมาอย่าง Do You Love Me ที่ช่วยชูรสฉากเหล่านี้ให้ดูสนุกขึ้น

แล้วหนังก็ดูโอเคขึ้นอีกเมื่อตัวละคร เธเรซ่า วอล์ช (Glenne Headly) เริ่มมามีบทบาทพัวพันกับสองพ่อลูก อันนี้ยอมรับเลยว่า Headly แสดงได้น่ารักมาก เธอดูสดใส อ่อนโยน ดูมีออร่าจนไม่แปลกใจหากเรย์จะชอบเธอ และทิมมี่จะเชียร์ให้เธอได้คู่กับพ่อ

และสิ่งหนึ่งที่รู้สึกระหว่างดูคือ ดนตรีของ Miles Goodman มาในโทนอบอุ่นครับ ออกแนวหนังครอบครัว เลยทำให้ช่วงครึ่งแรกดนตรีของเขาจะฟังดูแปร่งหน่อยๆ ไม่ใช่เพราะดนตรีไม่ดีน่ะครับ คือบอกได้เลยว่าดนตรีน่ะดี แต่พอภาพตรงหน้า ทั้งการเล่าเรื่องและการแสดงมันยังไม่ลื่น ดนตรีก็เลยเหมือนจะดูเด่นเกินเบอร์องค์ประกอบอื่นๆ ไป แต่พอผ่านช่วงเที่ยวสวนสนุกไปแล้ว โทนหนังและการแสดงมันก็เริ่มเข้าที่ ทีนี้ดนตรีเลยเข้าไปกับหนังมากขึ้น

รวมๆ แล้วผมโอเคกับครึ่งหลังของหนังครับ แม้มันอาจจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็ถือว่าใช้ได้ เสียดายที่ครึ่งแรกน่ะมันไม่ลงตัวนัก เลยทำให้ภาพรวมของหนังยังไม่ได้ระดับ

และอีกคนที่ผมว่าเล่นได้กำลังดีเลยคือ Gailard Sartain ในบทคาร์ล หนึ่งในสมาชิกก๊วนโจรของเรย์ รายนี้เล่นบทไหนก็ตามก็มักจะออกมาน่ารักเสมอ ผมชอบฉากที่เขาเต้นกับ Culkin น่ะครับ มันสื่อถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครนี้ได้ดี (ประมาณว่าแม้จะเป็นโจร แต่ก็ไม่ได้ใจโหดใจเหี้ยมอะไร ยังมีความน่ารักอยู่)

แต่ก็ใจหายเหมือนกันนะครับ เพราะผมมาดูหนังเรื่องนี้ตอนที่ Sartain ไม่อยู่แล้ว ผมน่ะชอบเขาตอนเล่นในหนังของ Ernest มากๆ เลย พอมาดูเรื่องนี้ก็ยิ่งคิดถึงเขาครับ เพราะเขาดูใจดีและน่ารักมากๆ แล้วไหนจะ Headly อีก ตอนนี้เธอก็จากเราไปแล้วเหมือนกัน – ดูไปก็แอบใจหวิวไม่น้อยครับ

เกร็ดหนังที่อยากนำมาฝากก็คือ ก่อนที่ Danson จะได้บทเรย์ไป คนที่เคยถูกเล็งไว้ว่าจะมารับบทก็มี Tom Hanks, Mel Gibson, Harrison Ford, Bill Murray, Kevin Costner, Sylvester Stallone, Michael Keaton, Bruce Willis, Kurt Russell, Tim Allen, Robin Williams, Patrick Swayze, Chuck Norris และ Arnold Schwarzenegger ครับ – ส่วนตัวผมมองว่าบางคนในลิสต์นี้ดูจะเหมาะกว่า Danson นะ แต่ก็เอาเถอะครับ มันผ่านไปแล้วน่ะ

และเรื่องนี้ Culkin ได้ค่าตัวไปถึง $8 ล้านเลยทีเดียวครับ ทำให้ทุนสร้างรวมของหนังอยู่ที่ $30 ล้าน แล้วก็ได้คืนมา $18.8 ล้านในอเมริกาซึ่งไม่สวยนัก แต่ถ้ารวมทั่วโลกก็ได้ไป $53.8 ล้าน ก็พอจะโปะทุนคืนได้บ้าง

ส่วนตัวผมโอเคกับพล็อตครับ แต่น่าเสียดายที่ตอนครึ่งแรกมันยังไม่เข้าที่สักเท่าไหร่ ส่วนครึ่งหลังที่ถือว่าดีขึ้นนั้น เอาเข้าจริงๆ มันก็คือดีกว่าครึ่งแรก แต่ก็ยังดีได้อีก ลงตัวกลมกล่อมได้อีก – ไม่รู้สิ พล็อตแบบนี้น่ะ ถ้าทำดีๆ ผมว่าซึ้งแหลกราญเลยนะครับ ก็เสียดายเหมือนกันที่หนังยังทำได้ไม่ถึง ซึ่งหนังน่ะกำกับโดย Howard Deutch ที่เคยฝากผลงานน่าจดจำอย่าง Some Kind of Wonderful, The Great Outdoors, Grumpier Old Men และ The Replacements ส่วนเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกครับ ว่าค่อนข้างเสียดายอยู่

เกือบสองดาวครับ

(5.5/10)